คลังเผย หนี้ครัวเรือน พุ่งสูงสุด 86.6% ต่อGDP ผลกระทบโควิด19
คลังเผย หนี้ครัวเรือน พุ่ง 86.6% ต่อGDP ผลกระทบโควิด19 ขณะนี้สถานะการเงินของคนไทยอยู่ในสภาวะเปราะบาง วัดได้จากหนี้ครัวเรือนของไทยไตรมาส 2 ปี 2562 มีสัดส่วนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี) อยู่ที่ 78.9% ซึ่งขณะนั้นอยู่ในระดับสูงแล้ว
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ได้กล่าวในงานเปิดตัวโครงการ “Happy Money สุขเงิน สร้างได้ พลังความร่วมมือเพื่อฟื้นฟูและสร้างภูมิคุ้มกันด้านการเงินสำหรับคนไทย” ว่า ขณะนี้สถานะการเงินของคนไทยอยู่ในสภาวะเปราะบาง วัดได้จากหนี้ครัวเรือนของไทยไตรมาส 2 ปี 2562 มีสัดส่วนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี) อยู่ที่ 78.9% ซึ่งขณะนั้นอยู่ในระดับสูงแล้ว แต่ปัจจุบันหลังได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 หนี้ครัวเรือนของไทยปรับตัวสูงขึ้นอีก โดยไตรมาส 3 ปี 2563 อยู่ที่ 86.6% ของจีดีพี
ขณะที่จากการสำรวจผู้สูงอายุทั่วไทยเมื่อปี 2560 พบว่า ช่วงหลังเกษียณผู้สูงอายุประมาณ 34.7 % ยังต้องพึ่งพารายได้หลักจากบุตรหลาน ส่วนอีก 31% ยังคงต้องทำงานเลี้ยงตัวเอง โดยมีเพียง 2.3 % เท่านั้นที่สามารถพึ่งพาตัวเองได้จากเงินออม ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า คนไทยจำนวนไม่น้อยอาจมีความเสี่ยงต้องเผชิญภาวะเกษียณทุกข์ในอนาคต
ส่วนผลการสำรวจภาคการออมครัวเรือนไทย ไตรมาส 3 ปี 2561 ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า 5.8 ล้านครัวเรือนไทย หรือ 27.1% ไม่มีเงินออมเลย ส่วนครัวเรือนที่มีการออมเงินอยู่ที่ 15.7 ล้านครัวเรือน หรือ 72.9% อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาถึงวิธีการออมพบว่า คนไทย 38.9% มีพฤติกรรมใช้เงินก่อนออม คนไทย 38.5% มีการออมไม่สม่ำเสมอ และที่เหลือ 22.6% มีพฤติกรรมออมก่อนใช้