เเห่ลงชื่อไล่เกือบ2เเสนเเล้ว"อนุทิน"ไม่หวั่นขู่กลับเเคมเปญ"หมอไม่ทน"
นายอนุทิน ชาญวีรกูล เปิดใจหลังจากในโลกออนไลน์มีการเเห่ล่ารายชื่อ สร้างแคมเปญรณรงค์ผ่านเว็บไซต์ Change.org เรียกร้องให้ ลาออกจากตำแหน่งรมว.สาธารณสุข ย้ำ ผมยังคงทำหน้าที่ของผมเหมือนเดิม ยังไม่ถึงขั้นที่ผมต้องลาออก
ท่ามกลางกระเเสการเเห่ลงรายชื่อผ่านเว็บไซต์ www.change.org โดย หมอไม่ทน ได้สร้างแคมเปญรณรงค์ถอดถอนนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ออกจากตำแหน่ง "เรียกร้องให้อนุทิน รัฐมนตรี สธ. ลาออก จากความล้มเหลวในการแก้ปัญหาการระบาด COVID 19" ล่าสุด ณ วันที่ 27เม.ย.64 มีผู้ร่วมลงชื่อไปเเล้วกว่า 199,672 คน (ชมคลิปท้ายข่าว)
โดยในรายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand เปิดความลับ ...ทาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว บอกว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขยังคงดำเนินตามนโยบาย และแนวทางเดิมที่ร่วมกันวางแผนกันมากับทางกระทรวง และ แพทย์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ ตั้งแต่ต้น
ผมยังคงทำหน้าที่ของผมเหมือนเดิม ในเรื่องที่มีการเรียกร้องนั้น ผมก็จะฟังเอาไว้แล้วรับมาปรับปรุงตัว แต่ยังไม่ถึงขั้นที่ผมต้องลาออก ที่ผ่านมาผมทำงานร่วมกับแพทย์จากมหาวิทยาลัย และพี่น้องกระทรวงสาธารณสุขต่างๆ
หากไม่ทนก็ต้องไม่ทนกันทั้งระบบ เพราะเราปฏิบัติตามนโยบายที่ร่วมกันคิด และบริหารตามแนวคิดที่วางเอาไว้ คนไม่ชอบก็เขียนเรียกร้องอะไรมาก็ได้ทั้งนั้น แต่หากมาใช้การเรียกร้องแบบนี้ ตัวผมเองก็ยังสามารถที่จะให้เพื่อนมาโหวตช่วยผมได้เหมือนกัน”
นอกจากนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยังกล่าวถึงการบริหารจัดหาเตียงผู้ป่วยสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ว่า ทางสาธารณสุขได้จัดเตรียมสถานที่ และระบบบริการในศูนย์นิมิตรใหม่ ซึ่งจะเป็นศูนย์แรกรับเพื่อดูแลผู้ป่วยติดเชื้อสำหรับกรณีฉุกเฉิน เนื่องจากปัจจุบันในกรุงเทพฯ มีจำนวนผู้ป่วยจำนวนมากส่งผลให้เตียงผู้ป่วยยังไม่เพียงพอ ซึ่งศูนย์แรกรับจะใช้สถานที่ดังกล่าวเป็นศูนย์รองรับเพื่อดูแลผู้ป่วยในขั้นแรก และจะช่วยแก้ปัญหาเตียงผู้ป่วยไม่เพียงพอได้
สำหรับการจัดการสำหรับศูนย์กระจายวัคซีนนั้น สามารถใช้โรงพยาบาลสนาม และศูนย์ที่มีการจัดเตรียมสำหรับรองรับผู้ป่วยขั้นแรกที่มีอยู่แล้ว นอกจากนี้สำหรับความกังวลเรื่องของบุคลากรการแพทย์ไม่เพียงพอนั้น มองว่าประเทศไทยยังมีบุคลากรทางการแพทย์ที่มีใบอนุญาตเพียงพอสำหรับการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้อย่างครบถ้วน
ขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจ ทั้งโพสต์ ทั้งไลน์ และ โทรมาด้วยตัวเอง
ผมยังเข้มแข็งดี ทั้งร่างกายและจิตใจ และยังมีความมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับคณะแพทย์ และบุคลากรสาธารณสุข ทั้งของกระทรวงสาธารณสุข และ หน่วยงานต่างๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชน และ การควบคุมโรคให้ได้ผล
บางท่านทั้งให้กำลังใจ และห่วงใยว่ามีการยึดอำนาจ แย่งอำนาจของกระทรวงสาธารณสุข ผมได้แต่ตอบไปว่า รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้บริหารสูงสุด และ เป็นผู้รับผิดชอบ อยู่แล้ว ผมมีหน้าที่ปฏิบัติตามนโยบาย และคำสั่งท่านนายกรัฐมนตรี มาโดยตลอด
ส่วนเรื่องการป้องกัน และ ควบคุมโรคระบาดโควิด-19 นั้น ศูนย์อำนวยการบริหารสถานการณ์โควิด หรือ ศบค. เป็นผู้จัดทำนโยบาย พิจารณา ออกคำสั่ง กำกับการปฏิบัติงาน โดยมีนายกรัฐมนตรี เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ กระทรวงสาธารณสุข เป็นหน่วยปฏิบัติตามนโยบายของศบค.
หลายครั้งที่กระทรวงสาธารณสุข เสนอมาตรการควบคุมโรค หากศบค. ไม่เห็นด้วย ก็ต้องกลับมาปรับมาตรการ ทั้งการตรวจ การป้องกัน การรักษา การจัดหายา เวชภัณฑ์ และ การฉีดวัคซีน
ที่ผ่านมา ศบค. เป็นผู้บริหารแบบ Single command มาตั้งแต่ต้น เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2563 กระทรวงสาธารณสุข ปฏิบัติตามนโยบายศบค. ด้วยดีมาตลอด
จึงขอความกรุณาอย่าเอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็นการเมือง และสร้างกระแสให้เกิดความขัดแย้ง และส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบสาธารณสุข และบุคลากรทางการแพทย์
ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผมเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา และปฏิบัติตามนโยบาย และ คำสั่งนายกรัฐมนตรี และรายงานการปฏิบัติงาน ให้นายกรัฐมนตรี ทราบทุกครั้ง
ขอยืนยันว่า ไม่มีการยึดอำนาจ ไม่มีการแย่งอำนาจ เพราะ นายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้ารัฐบาล เป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหาร และ ในฐานะผู้อำนวยการศบค.
ขอบคุณ
เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand เปิดความลับ