เยอรมนีจำกัดการเดินทางจากอินเดีย เพื่อสกัดโควิด-19 กลายพันธุ์เข้าประเทศ
เยอรมนีกำหนดให้อินเดียเป็นภูมิภาคที่มีความเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) สูง หลังจากพบเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ชนิดใหม่ และสั่งจำกัดการเดินทางระหว่างสองประเทศ โดยมีผลตั้งแต่วันจันทร์ (26 เม.ย.) ที่ผ่านมา
“เรามีความกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับเชื้อไวรัสชนิดกลายพันธุ์ที่เพิ่งพบใหม่ในอินเดีย และเพื่อไม่ให้แผนฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของประเทศได้รับผลกระทบ เราจึงประกาศจำกัดการเดินทางกับยังอินเดีย” เยนส์ ชปาห์น รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขเยอรมนี โพสต์ผ่านทางทวิตเตอร์เมื่อวันเสาร์ (24 เม.ย.)
ชปาห์นกล่าวว่าชาวเยอรมนีที่เดินทางมาจากอินเดียจะได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับประเทศได้ ซึ่งต้องรับการตรวจโรคโควิด-19 ก่อนขึ้นเครื่องบินและกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ทันทีที่มาถึงเยอรมนี
เมื่อวันอาทิตย์ (25 เม.ย.) ไฮโก มาส รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศเยอรมนี กล่าวกับหนังสือพิมพ์ไรน์นิชเชอ โพสต์ (Rheinische Post) ว่าขณะนี้อินเดียกำลังเผชิญการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกสองอย่างรุนแรงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่เราดำเนินการสกัดไม่ให้เชื้อไวรัสกลายพันธุ์ชนิดใหม่นี้เข้ามาในประเทศอย่างทันท่วงที
“แต่อีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันคือเราต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยอินเดียให้เอาชนะสถานการณ์ตอนนี้” มาสกล่าว โดยอินเดียมีบทบาทสำคัญในการร่วมกันต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมีฐานะเป็นผู้จัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 รายสำคัญที่สุดสำหรับโคแวกซ์ (COVAX) ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มที่นำโดยองค์การอนามัยโลก (WHO)
มาสทิ้งท้ายว่า นอกจากการให้ความเคารพต่อเรื่องนี้แล้ว เราต้องแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับอินเดียด้วย โดยรัฐบาลเยอรมนีกำลังเตรียมส่งสิ่งจำเป็นเพื่อช่วยเหลืออินเดีย เช่น ออกซิเจนและยารักษาโรค ผ่านการเจรจากับหลายบริษัท
อินเดียพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปัจจุบัน โดยช่วงเช้าวันจันทร์ (26 เม.ย.) พบผู้ป่วยเพิ่ม 352,991 ราย ถือเป็นจำนวนผู้ป่วยรายวันสูงที่สุดของโลก รวมถึงพบผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่ม 2,812 ราย ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา