สารวัตรสืบอุดรฯพาเมียนั่ง ฮ. อวดชาวบ้าน โดนกักยาม 14 วัน
คืบหน้าการสอบสวนคลิป พ.ต.ท.อรรคพล ยี่เกาะ สารวัตรสืบอุดรฯ แต่งเครื่องแบบเต้นล้อเลียนนักร้องประเทศเพื่อนบ้าน ลงในแอปพลิเคชัน TIKTOK พร้อมกับคลิปพาภรรยานั่งเฮลิคอปเตอร์ของตำรวจ
วันนี้ (28/4/2564) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ(จตช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนคลิป พ.ต.ท.อรรคพล ยี่เกาะ สารวัตรสืบอุดรฯ แต่งเครื่องแบบเต้นล้อเลียนนักร้องประเทศเพื่อนบ้าน ลงในแอปพลิเคชัน TIKTOK พร้อมกับคลิปพาภรรยานั่งเฮลิคอปเตอร์ของตำรวจว่า พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ได้รายงานว่า ได้พิจารณาผลการสืบสวนข้อเท็จจริงทางวินัย ทั้ง 2 กรณีแล้ว พบว่า กระทำผิดจริง
ดังนั้น จึงมีคำสั่ง ภ.จว.อุดรธานี ที่ 286 /2564 ลง 27 เม.ย. 2564 และ คำสั่ง ภ.จว.อุดรธานี ที่ 287/2564 ลง 27 เม.ย. 2564 ลงโทษ พ.ต.ท.อรรคพล ยี่เกาะ ฐานประพฤติตนไม่เหมาะสม ให้กักยาม โดยการสั่งให้ควบคุมตัวใน กก.สส.ภ.จว.อุดรธานี โดยกักไว้ในเขตพื้นที่ที่กำหนด กระทงละ 7 วัน รวม 2 กระทง เป็น 14 วัน ซึ่งเป็นการลงทัณฑ์สูงสุดในอำนาจ ผบก.ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาต้นสังกัด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่ตำรวจอื่น ต่อไป
พล.ต.อ.วิสนุ กล่าวว่า ทาง ตร.ไม่ได้เพิกเฉยต่อการแสดงออกของตำรวจที่ทำให้สังคมเกิดความไม่สบายใจ ซึ่งเมื่อพบว่าผิด ก็ต้องลงโทษทางวินัย ตามน้ำหนักของความผิด และฝากกำชับถึงข้าราชการตำรวจทุกนาย ให้ปฏิบัติตามข้อสั่งการของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ซึ่งได้ทำวิดีทัศน์คู่มือแนะนำแนวทางปฏิบัติในการใช้สื่อสังคมออนไลน์ของข้าราชการตำรวจ อย่างเคร่งครัด ซึ่ง ผบ.ตร.ได้เคยย้ำว่า การเป็นข้าราชการตำรวจนั้น นอกจาก “สิทธิส่วนบุคคล” แล้ว ยังมีคำว่า “หน้าที่ความรับผิดชอบ” เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งต้องให้ความสำคัญทั้ง 2 เรื่อง ในน้ำหนักที่เท่ากัน
"เราต้องคิดก่อนทำว่า ทำแล้ว เป็นประโยชน์ต่อทางราชการ หน่วยงาน องค์กร หรือสังคมอย่างไร ซึ่งในแนวทางการใช้สื่อสังคมออนไลน์ ก็ระบุสิ่งที่ทำแล้ว เป็นเรื่องสร้างสรรค์ และเป็นประโยชน์ไว้ 5 ข้อ และสิ่งที่ทำแล้ว เกิดความเสียหายต่อสถาบัน องค์กร หน่วยงาน หรือบุคคลอื่นไว้ 9 ข้อ ให้ตำรวจทุกนายกลับไปทบทวนให้ดี หากมีข้อบกพร่องเช่นนี้อีก จะอ้างว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ไม่ได้"