ตายายตั้งใจบริจาคเงิน 1 ล้าน สร้างอุโบสถวัด ผ่านไปปีกว่ายังไร้วี่แวว

29 เมษายน 2564

ตายายตั้งใจบริจาคเงิน 1 ล้าน สร้างอุโบสถวัด ผ่านไปปีกว่ายังไร้วี่แวว นางอำไพ อายุ 79 ปี นายนพ อายุ 79 ปี สามีภรรยา อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี เข้าแจ้งความ ร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.วรทัศน์ วัฒนชัยนันท์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.บางใหญ่ เพื่อให้ดำเนินคดี กับ นายอานนท์ณัฎฐ์ อายุ 69 ปี

นางอำไพ อายุ 79 ปี นายนพ อายุ 79 ปี สามีภรรยา ชาวตำบลบางเลน อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี เข้าแจ้งความ ร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.วรทัศน์ วัฒนชัยนันท์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.บางใหญ่ เพื่อให้ดำเนินคดี กับ นายอานนท์ณัฎฐ์ อายุ 69 ปี ไวยาวัจกรวัดศรีราษฎร์ อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี หลังมาบอกให้ตนทั้งสองคนบริจาคเงิน เพื่อสร้างอุโบสถหลังใหม่ ของวัดแห่งนี้

ซึ่ง 2 ตายายได้บริจาคเงินจำนวน 1 ล้านบาท ให้กับนายอานนท์ณัฎฐ์ เพื่อนำไปสร้างอุโบสถ แต่ต่อมา รากฏว่า ไม่มีการสร้างอุโบสถตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด เมื่อตนทั้งสองคนไปทวงเงิน จากนายอานนท์ณัฎฐ์ ก็ได้รับคำตอบว่า จะเก็บเงินนี้ไว้ก่อน เนื่องจากยังก่อสร้างอุโบสถไม่ได้ เพราะติดปัญหา คือชาวบ้านยังไม่ยอมให้สร้าง โดยหาว่าที่ดังกล่าวเป็นที่จอดรถจึงไม่อนุญาตให้สร้าง 
 

ตายายตั้งใจบริจาคเงิน 1 ล้าน สร้างอุโบสถวัด ผ่านไปปีกว่ายังไร้วี่แวว

 

อีกทั้งยังมาเจอปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถก่อสร้างอุโบสถตามที่ตั้งใจไว้ ตนทั้งสองจึงเอ่ยปากขอเงินคืน แต่นายอานนท์ณัฎฐ์ บอกว่า ทางวัดได้ออกใบอนุโมทนาบัตรให้แก่ตนแล้ว เงินที่บริจาคมาก็ยังอยู่ในบัญชี ไม่ได้นำไปใช้แต่อย่างใด
 

ตายายตั้งใจบริจาคเงิน 1 ล้าน สร้างอุโบสถวัด ผ่านไปปีกว่ายังไร้วี่แวว

 

หลังจากนั้น ตายาย และชาวบ้านจำนวนหนึ่ง ได้เดินทางไปพบกับ นายประหยัด ผู้ใหญ่บ้าน และนายอานนท์ณัฏฐ์ ไวยาวัจกร เพื่อพูดคุยถึงปัญหาที่เกิดขึ้น โดยนายอานนท์ณัฏฐ์ และนายประหยัด ได้นำหลักฐานต่างๆ มาแสดงให้เห็นว่า พวกตนมีโครงการในการก่อสร้างพระอุโบสถหลังใหม่จริง และเงินที่รับบริจาคมาก็ยังอยู่ไม่ได้นำไปใช้แต่อย่างใด ทางนางอำไพ และนายนพ 2 ตายาย จึงขอให้นำสมุดบัญชี มาให้ดู และพบว่ามียอดบริจาคเข้ามา 6 ล้านห้าแสนบาท ซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันว่าเงินในบัญชียังอยู่ครบ

ซึ่งหาก ตายาย อยากจะได้เงินคืน ตนทั้งสองคนยินดีที่จะคืนเงินจำนวน 1 ล้านบาท ให้กับ 2 ตายายทันที