สหราชอาณาจักรพบฉีดวัคซีนโควิด-19 โดสเดียว สามารถลดแพร่เชื้อไปได้ถึงครึ่ง
สำนักข่าวซินหัวรายงานเมื่อวันพุธ (28 เม.ย.) ผลการศึกษาจากสำนักสาธารณสุขอังกฤษ (PHE) ระบุว่าการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
การศึกษาข้างต้นระบุว่าผู้ที่ติดเชื้อไวรัสฯ อย่างน้อย 3 สัปดาห์ มีแนวโน้มแพร่เชื้อไวรัสฯ ให้ผู้อาศัยอยู่ในครัวเรือนเดียวกันลดลงร้อยละ 38-49 เมื่อเทียบกับผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน โดยผู้เข้าร่วมการศึกษาเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนของไฟเซอร์ (Pfizer) หรือแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) จำนวน 1 โดส
ปีเตอร์ อิงลิช ที่ปรึกษาวัยเกษียณจากสำนักควบคุมโรคระบาด ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวสกาย นิวส์ (Sky News) ว่าการค้นพบนี้น่ายินดีอย่างยิ่ง ทำให้มีหลักฐานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องว่าการฉีดวัคซีนจะป้องกันประชาชนจากการติดเชื้อ แม้คนที่ฉีดวัคซีนแล้วจะติดเชื้อไวรัสฯ แต่พวกเขาก็มีแนวโน้มแพร่กระจายเชื้อให้คนอื่นได้น้อย
การศึกษาดังกล่าวที่ยังไม่ได้รับการตรวจสอบทบทวนโดยผู้ทรงคุณวุฒิ มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 57,000 คน ซึ่งอาศัยอยู่ใน 24,000 ครัวเรือนที่มีผู้ฉีดวัคซีนแล้วหนึ่งคน โดยพวกเขาถูกนำมาเปรียบเทียบกับประชาชนเกือบ 1 ล้านคน ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน
ทั้งนี้ สหราชอาณราจักรมีประชาชนได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสแรกแล้ว 33.8 ล้านคน โดย 1 ใน 4 ของผู้ใหญ่ในประเทศได้รับวัคซีนครบสองโดสแล้ว ขณะโครงการฉีดวัคซีนทั่วประเทศถูกขยายให้ครอบคลุมประชาชนอายุ 42 ปีขึ้นไป