ศูนย์โรคติดต่อสหรัฐฯ เปิดเหตุผลทำไมต้องสวมแมสก์ 2 ชั้น เอาตัวรอดจากโควิด
ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทางคลินิก คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เผยข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของสหรัฐอเมริกา ชี้ การสวมแมสก์ 2 ชั้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพป้องกันโควิดได้ดียิ่งขึ้น
จากสถานการณ์การแพร่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ในเดือนเมษายน ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู่เสียชีวิตเพิ่มขึ้นสูงเป็นจำนวนมาก เรียกว่าเข้าขั้นวิกฤตของประเทศไทยก็ว่าได้ โดยในวันที่ 4 พ.ค. 64 มีผู้ป่วยรายใหม่ 1,763 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมแล้ว 72,188 ราย ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 27 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมไปแล้ว 303 ราย
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 64 มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Kong Nanthapisal" หรือ ผศ.ดร.นพ.สิระ นันทพิศาล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทางคลินิก คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ให้ข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของสหรัฐอเมริกา (CDC) แนะนำการใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้น จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพป้องกันโควิด-19 ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งได้มีการระบุข้อความดังนี้
"ช่วยกันใส่หน้ากากสองชั้นครับ ศูนย์ควบคุมโรคสหรัฐอเมริกาทดลองประสิทธิภาพของการสวมหน้ากากแบบต่างๆในการลดการผ่านเข้าออกของละอองขนาดเล็ก (น้อยกว่า 7 ไมครอน) โดยพบว่า
- หน้ากากชั้นเดียว (ทั้งผ้าหรือ surgical mask แบบไม่ผูก) 51.4% และ 56.1% ตามลำดับ
- หน้ากาก surgical mask ผูกปมที่หู 77%
- หน้ากากสองชั้น โดยสวมหน้ากากผ้าด้านนอกทับหน้ากาก surgical mask ด้านใน ป้องกันได้มากขึ้นถึง 85.4% และถ้าคนสองคนใส่หน้ากากสองชั้นมาไอใส่กันสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของการป้องกันส่งผ่านอนุภาคเล็กๆได้ถึง 95.9%!!
- เพิ่มเติม หน้ากากผ้าช่วยเพิ่มความกระชับของ surgical mask ป้องกันรอยรั่วด้านข้างๆได้ดี
- ไม่แนะนำให้หน้ากากอันใดอันหนึ่งเป็น N95 นะครับ"
ขอบคุณ FB : Kong Nanthapisal