ชาวออสเตรเลียส่วนใหญ่ไม่พอใจ "การฉีดวัคซีน" ในประเทศ
เมื่อวันพุธ (5 พ.ค.) คณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย (ANU) ได้เผยแพร่รายงานล่าสุดจากการสำรวจมุมมองของชาวออสเตรเลียวัยผู้ใหญ่มากกว่า 3,000 คนต่อการระบาดและการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
ซึ่งเผยให้เห็นว่าชาวออสเตรเลียเกือบ 2 ใน 3 คิดว่าผลการดำเนินโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในประเทศอยู่ในระดับที่ไม่ดีนัก
รายงานระบุว่า มีผู้ตอบแบบสอบถามเพียงร้อยละ 3.7 เท่านั้นที่คิดว่าผลการดำเนินโครงการฉีดวัคซีนอยู่ในระดับ “ดีมาก” ขณะที่ร้อยละ 64 เห็นว่า “ไม่ดีนัก” หรือ “ไม่ดีเลย”
เมื่อนับถึงเช้าวันพุธ (5 พ.ค.) ออสเตรเลียฉีดวัคซีนโรคโควิด-19 ให้ประชาชนรวมแล้วมากกว่า 2.3 ล้านโดส
แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับความเร็วในการฉีดวัคซีน แต่ผลการสำรวจของมหาวิทยาลัยฯ พบว่าผู้ยินยอมรับการฉีดวัคซีนที่ “ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ” มีจำนวนเพิ่มขึ้น
ในเดือนเมษายน ร้อยละ 54.7 ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าพวกเขาจะเข้ารับการฉีดวัคซีนที่ปลอดภัยอย่างแน่นอน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 43.7 ในเดือนมกราคม
“ผลการสำรวจเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากออสเตรเลียพยายามที่จะสร้างความเชื่อมั่นเรื่องโครงการฉีดวัคซีนของรัฐในหมู่ประชาชน ในโมงยามที่เกิดคำถามมากมายเกี่ยวกับความเร็วในการฉีดวัคซีนทั่วประเทศของเรา” นิโคลัส บิดเดิล (Nicholas Biddle) ผู้ร่วมเขียนรายงานระบุในการแถลงข่าว
อย่างไรก็ตาม มีเพียงร้อยละ 44.8 ของผู้ตอบแบบสอบถามที่อยู่ในชุมชนที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและพูดภาษาอื่นๆ ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษในออสเตรเลียเท่านั้น ที่บอกว่าพวกเขาจะเข้ารับการฉีดวัคซีนที่ปลอดภัยอย่างแน่นอน
“จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการกำหนดนโยบายที่มั่นใจได้ว่าจะสื่อสารได้อย่างตรงจุดและสามารถแก้ไขความวิตกกังวลของชุมชนเหล่านี้ได้” บิดเดิลกล่าว
“เห็นได้ชัดว่าความพึงพอใจต่อโครงการฉีดวัคซีนอยู่ในระดับต่ำ ทั้งยังชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นที่ต้องใช้การแก้ปัญหาเรื่องความไม่เต็มใจในการเข้ารับวัคซีน ในการจัดการกับความสัมพันธ์เช่นนี้ด้วย” เขาทิ้งท้าย
ขอบคุณ ซินหัวไทย