สังคม

heading-สังคม

รัฐบาลยอมถอยไฟเขียวให้ภาคเอกชนนำเข้าวัคซีนทางเลือก แต่มีข้อแม้เล็กน้อย

07 พ.ค. 2564 | 13:59 น.
รัฐบาลยอมถอยไฟเขียวให้ภาคเอกชนนำเข้าวัคซีนทางเลือก แต่มีข้อแม้เล็กน้อย

รัฐบาลยอมถอย ไฟเขียวให้ภาคเอกชนนำเข้าวัคซีนทางเลือก แต่มีข้อแม้เล็กน้อย แค่ไม่ควรซ้ำยี่ห้อกับที่ทางรัฐบาลจัดสรรมาให้ประชาชน และสามารถจัดส่งวัคซีนได้ทันภายในปี 2564

หลังจากที่มีการออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลได้ช่วยแสวงหาวัคซีนโควิดที่มีประสิทธิภาพและหลากหลายมาฉีดให้กับประชาชนอย่างเร่งด่วน เนื่องจากหลายคนได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ระลอกที่สามที่เกิดขึ้นในประเทศไทย 

รัฐบาลยอมถอยไฟเขียวให้ภาคเอกชนนำเข้าวัคซีนทางเลือก แต่มีข้อแม้เล็กน้อย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทางด้าน นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงชี้แจงเกี่ยวผลการประชุมแนวทางการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อโควิด-19 สำหรับใช้ในสถานพยาบาลของรัฐ และวัคซีนทางเลือกเพื่อนำมาให้บริการในสถานพยาบาลเอกชน ว่า มีมติว่าควรกำหนดให้วัคซีนโควิด 19 เป็นสินค้าควบคุม

 

โดยสถานพยาบาลภาคเอกชนควรคัดเลือกวัคซีนโควิด 19 ทางเลือก ที่มีคุณลักษณะหรือยี่ห้อที่แตกต่างจากวัคซีนที่ภาครัฐนำเข้ามา และสามารถจัดส่งวัคซีนได้ทันภายในปี 2564 รวมทั้งในอนาคตกรณีที่มีการวิจัยและผลิตวัคซีนโควิด-19 เพิ่มเติม ก็สามารถนำเสนอวัคซีนทางเลือกรายการอื่นเพิ่มเติมได้

รัฐบาลยอมถอยไฟเขียวให้ภาคเอกชนนำเข้าวัคซีนทางเลือก แต่มีข้อแม้เล็กน้อย

ทั้งนี้ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังได้สรุปการจัดหาวัคซีนโควิด 19 เพิ่มเติมของภาครัฐ ประกอบด้วย Pfizer, Sputnik V และ Johnson & Johnson ซึ่งในการจัดหาวัคซีนโควิด 19 ของสถานพยาบาลเอกชนนั้น ที่ประชุมมีความเห็นว่า ควรเป็นวัคซีนโควิด 19 ในรายการอื่นๆ ที่ไม่ได้ให้บริการโดยภาครัฐและสถานพยาบาลของรัฐ 


เพื่อให้เป็นวัคซีนทางเลือกอย่างแท้จริง และไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนกับภาครัฐ เช่น Moderna, Sinopharm หรือวัคซีนอื่นที่จะมีการขึ้นทะเบียนต่อไปในอนาคต และขอให้มีการควบคุมราคาการให้บริการในการฉีดวัคซีนทางเลือกให้กับประชาชนในสถานพยาบาลเอกชนให้สมเหตุสมผล และมีราคาที่เหมาะสม ซึ่งที่ประชุมได้มอบหมายให้ อย. ช่วยผลักดันให้มีบริษัทผลิตและจัดจำหน่ายวัคซีนเข้ามาขึ้นทะเบียนในประเทศไทยให้เพิ่มมากขึ้น


อย่างไรก็ตามการจัดหาวัคซีนในสถานพยาบาลเอกชนนั้น องค์การเภสัชกรรมจะเป็นผู้บริหารจัดการและประสานกับบริษัทผู้ผลิตหรือตัวแทนจำหน่ายวัคซีน โดยจะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าไม่ปลอดภัย (Product Liability) และสถานพยาบาลเอกชนที่ประสงค์จะนำเข้าวัคซีนโควิด-19 ทางเลือก จะเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะต้องชำระเงินจองวัคซีนโควิด-19 ทางเลือกล่วงหน้าให้แก่องค์การเภสัชกรรมเต็มจำนวนมูลค่าการสั่งซื้อ (100%) รวมทั้งจัดทำประกันสำหรับกรณีผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน
 

รัฐบาลยอมถอยไฟเขียวให้ภาคเอกชนนำเข้าวัคซีนทางเลือก แต่มีข้อแม้เล็กน้อย

 

ข่าวล่าสุด

heading-ข่าวล่าสุด

ข่าวเด่น

ไม่มีกั๊ก "ฮาย อาภาพร" เปิดเลขมงคล แบ่งโชคแฟนๆ หลวงพ่อเขียนให้เอง

ไม่มีกั๊ก "ฮาย อาภาพร" เปิดเลขมงคล แบ่งโชคแฟนๆ หลวงพ่อเขียนให้เอง

เช็กเงินสงเคราะห์บุตรอัตราใหม่ ของผู้ประกันตน ม.33 และ 39

เช็กเงินสงเคราะห์บุตรอัตราใหม่ ของผู้ประกันตน ม.33 และ 39

นักข่าวสาวเสียชีวิต ศพเพิ่งถูกส่งให้ครอบครัว เปิดดูถึงตกใจสภาพ

นักข่าวสาวเสียชีวิต ศพเพิ่งถูกส่งให้ครอบครัว เปิดดูถึงตกใจสภาพ

เจ้าของร้านหมูกระทะ ชี้แจงแล้ว หลังเจอดราม่าปรับเศษหมู ที่ลูกค้ากินเหลือ

เจ้าของร้านหมูกระทะ ชี้แจงแล้ว หลังเจอดราม่าปรับเศษหมู ที่ลูกค้ากินเหลือ

พบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 15 ราย เศร้ามีเด็กรวมอยู่ด้วย

พบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 15 ราย เศร้ามีเด็กรวมอยู่ด้วย