จิสด้าเผยชัด เศษซากจรวดจีนที่กำลังจะตกสู่พื้นผิวโลก จะกระทบไทยหรือไม่
จากกระแสข่าวที่จะมีเศษซากจรวดลอง มาร์ช 5 บี ของจีนกำลังจะตกสู่พื้นผิวโลกโดยไม่สามารถควบคุมได้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านั้น สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ GISTDA ได้ติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอด และรายงานให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบเป็นระยะ
จรวดลอง มาร์ช 5 บี ซึ่งมีความยาวประมาณ 30 เมตร กว้าง 5 เมตร ถูกส่งขึ้นสู่อวกาศ ตั้งแต่ช่วงวันพฤหัสบดีที่ 29 เม.ย.64 เพื่อส่งโมดูลแรกของสถานีอวกาศจีน (Chinese Space Station: CSS) ที่มีชื่อว่า “เทียนเฮอ” (Tianhe) ที่คาดว่าจะสามารถปฏิบัติงานอย่างเต็มรูปแบบได้ใน ปี พ.ศ.2565 โดยชิ้นส่วนหลักของจรวดนี้มีน้ำหนักประมาณ 20 ตัน ถือว่าเป็นวัตถุอวกาศที่มีน้ำหนักมากที่กำลังตกกลับสู่โลก ซึ่งขณะนี้ 4 หน่วยงานได้มีการติดตามคาดการณ์ตกของจรวด ได้แก่ United States Space Command, ESA , Aerospace และ GISTDA ได้ประเมินและคาดการณ์ตรงกันว่าวัตถุอวกาศดังกล่าวจะตกสู่พื้นโลกในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 9 พ.ค.64 ตามเวลาประเทศไทย ทั้งนี้ เวลาและตำแหน่งที่แน่ชัดจะแม่นยำขึ้นเมื่อชิ้นส่วนใกล้จะตกสู่โลกใน 1- 3 ชั่วโมง
นอกจากนี้ เรื่องราวของวัตถุอวกาศที่ตกลงมายังพื้นผิวโลกนั้นมีมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มมีการส่งดาวเทียมดวงแรก “สปุตนิก” ของสหภาพโซเวียต โดยทั่วไปแล้วชิ้นส่วนส่วนใหญ่ของดาวเทียมจะถูกเผาไหม้ไปกับชั้นบรรยากาศ แต่กรณีที่เป็นสถานีอวกาศที่มีขนาดใหญ่กว่าดาวเทียม จะมีชิ้นส่วนบางชิ้นเกิดการเผาไหม้ไม่หมดตกสู่พื้นผิวโลก ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ ที่ผ่านมากว่า 60 ปี ชิ้นส่วนจากอวกาศที่ตกลงมาสู่พื้นผิวโลกนั้นไม่ได้สร้างความเสียหายแก่ให้ชีวิตและทรัพย์สินมากนัก แต่อย่างไรก็ตาม กฎหมายอวกาศหรือข้อตกลงทางด้านอวกาศมีการกล่าวถึงรายละเอียดของการชดใช้ความเสียหายที่เกิดจากดาวเทียมหรือสถานีอวกาศ โดยประเทศเจ้าของวัตถุชิ้นนั้นจะต้องเป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวที่เกิดอีกด้วย
ที่มา GISTDA สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน)