"น้องโวลต์"เด็กเก่งยากจนสอบติดเเพทย์ กราบขอบคุณธารน้ำใจคนไทยช่วยสานฝัน
ธารน้ำใจจากผู้ใจบุญไหลหลั่งไม่ขาดสาย ร่วมบริจาคเงินสมทบทุนการเรียนของ น้องโวลต์ นางสาวณัฐวดี เหล่าบุบผา ยอดบริจาคเกือบ3ล้านบาท สานฝันให้เด็กเก่งเรียนดีฐานะยากจน ได้เข้าศึกษาในคณะแพทย์ฯ
กรณีเรื่องราวของเด็กเก่ง สอบติดเเพทย์ คือรายของ น้องโวลต์ นางสาวณัฐวดี เหล่าบุบผา อายุ 18 ปี นักเรียนโรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์ อาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 14 หมู่ 9 บ้านหามแห ต.โพนทอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งสอบติดคณะแพทยศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม โดยทางบ้านของน้องโวลต์ฐานะยากจน บ้านที่พักอาศัยเป็นบ้านเพิงหมาแหงนมุงสังกะสี ปลูกสร้างอยู่กลางสวนท้ายหมู่บ้าน
โดยจากการที่ นายสมเจตน์ เต็งมงคล นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วย ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลโพนทอง ได้เดินทางเข้าเยี่ยมครอบครัวน้องโวลต์
หลังจากในโลกออนไลน์ได้มีการเเชร์เเละเสนอข่าวเป็นจำนวนมาก นายทรงพล ใจกริ่ม ผวจ.กาฬสินธุ์ ได้มอบหมายให้เข้ามาดูพื้นฐานครอบครัวน้องโวลต์ และสอบถามข้อเท็จจริง ซึ่งทราบจากน้องโวลต์ พ่อ และครูที่ปรึกษาว่า ค่าใช้จ่ายในการเรียนแพทย์นั้นค่อนข้างสูง ใช้เวลาศึกษา 6 ปี ปีการศึกษาละ 8 หมื่นบาท
หากใช้เงินทุนส่วนตัวคงไม่เพียงพอ และคงจะไม่สามารถศึกษาจนจบหลักสูตรได้ จึงได้เปิดบัญชีรองรับการสนับสนุนดังกล่าว ซึ่งทราบว่ามียอดบริจาคเข้ามาแล้วประมาณ 2,700,000 บาท และทราบว่าขณะนี้ได้ปิดรับการบริจาคแล้ว เพราะประเมินว่าเพียงพอต่อการที่จะใช้เป็นทุนสำหรับเรียนแพทย์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการเบิกจ่ายเงินที่ได้รับการโอนเข้ามาช่วยเหลือ จะได้ร่วมกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ปรึกษากัน เพื่อให้การจ่ายเงินที่ได้รับจากการบริจาคเกิดผลคุ้มค่า และสมเจตนารมณ์ของผู้มีจิตอันเป็นกุศลมากที่สุด
ด้านน้องโวลต์ กล่าวว่า ตนมีความสนใจที่จะเรียนหลักสูตรแพทยศาสตร์บัณฑิต มานาน เพราะเห็นว่าเป็นอาชีพที่สามารถรักษาคนเจ็บป่วย ให้หายเป็นปกติ ถือว่าเป็นอาชีพที่สำคัญ และคอยช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ ยิ่งมาในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ซึ่งบุคลากรทางการแพทย์ พยาบาลนั้น ยังไม่เพียงพอ จึงมีความตั้งใจที่จะเรียนให้จบหลักสูตร และนำความรู้ ความสามารถ มาประกอบวิชาชีพในการรักษาพยาบาลคนป่วยไข้ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์บ้านเกิด
น้องโวลต์กล่าวต่อไปว่า ตนเองก็มีความตั้งใจจริงที่จะศึกษาให้จบ เบื้องต้นได้กู้เงิน กยศ. เพื่อเป็นทุนการศึกษา แต่คงไม่เพียงพอ อาจารย์ที่ปรึกษาและผู้ปกครอง จึงได้ปรึกษากันเพื่อเปิดบัญชีขอรับการสนับสนุนทุนการศึกษาดังกล่าว ซึ่งคิดว่าน่าจะได้ไม่เท่าไหร่ แต่ปรากฏว่าธารน้ำใจที่สังคมโอนเข้ามาในบัญชีจำนวนมากเกินความคาดหมาย เกือบ3ล้านบาท จึงขอยุติการรับโอน และขอกราบขอบพระคุณทุกท่านเป็นอย่างมาก ซึ่งตนจะตั้งใจเรียน และทำให้ดีที่สุด เพื่อที่จะเป็นหมอรักษาคนเจ็บป่วยความความฝันที่ได้ตั้งใจไว้
ขอบคุณ
จักรพงษ์ ระวิวรรณ nation tv