กระบะวิวาทแท็กซี่ ปาดหน้ากันไปมาเสียหลักชนเสาไฟเสียชีวิตคาที่
กระบะวิวาทแท็กซี่ ปาดหน้ากันไปมาเสียหลักพุ่งชนเสาไฟเสียชีวิตคาที่บริเวณแยกมารยาทดี แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง ภรรยาทราบข่าวรีบตามมาที่เกิดเหตุ เห็นร่างสามีถึงกับทรุดกอดร่างร่ำไห้แทบขาดใจ
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 13 พ.ค. ร.ต.ท.พัศวุฒิ ขันบัญชารักดี รอง สว.(สอบสวน)สน.มักกะสัน รับแจ้งเหตุรถกระบะเสียหลักชนเสาไฟฟ้ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต บริเวณแยกมารยาทดี แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ จึงรีบรุดไปตรวจสอบ พร้อม พ.ต.อ.ชนะวรศิณธุ์ ศุภพนารักษ์ แพทย์นิติเวช รพ.รามาธิบดี และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เหตุเกิดจากการทะเลาะวิวาทกันระหว่างรถกระบะและรถแท็กซี่ จนเสียหลักชนเสาไฟฟ้าทำให้คนขับเสียชีวิตคาที่
ที่เกิดเหตุ อยู่ริมถนนเพชรอุทัย มุ่งหน้าเข้าถนนเพชรบุรี พบรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแมกซ์ สีฟ้า ทะเบียน 2 ฒฮ 1340 กรุงเทพมหานคร ด้านหลังเป็นที่ขายหอมและกระเทียม มีรอยชนจนด้านหน้่ายุบ จอดอยู่ข้างเสาไฟฟ้า ใกล้กันพบร่างชายที่เป็นคนขับ ทราบชื่อต่อมา นายมานะ เกาะแก้ว อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/55 ซอยประชาอุทิศ 76 แยก 5 แขวงและเขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ สภาพสวมเสื้อยืดโปโลแขนสั้น สีน้ำตาล กางเกงยีนส์ขาสั้น มีบาดแผลฟกช้ำบริเวณใบหน้า มีเลือดไหลบริเวณจมูก เจ้าหน้าที่จึงกั้นพื้นที่ชั่วคราว เพื่อป้องกันอุบัติเหตุซ้ำซ้อน ต่อมา นางสุดสวาท ซาซซารีนี่ 48 ปี ภรรยาของนายมานะ ได้มาดูที่เกิดเหตุ เมื่อเห็นร่างสามีก็ร้องไห้ด้วยความเศร้าโศกเสียใจ
จากการสอบถาม นายวรวุฒิ แสงโต้ วินจยย.ที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะที่ตนกำลังรอผู้โดยสารอยู่ด้านหน้าวินตรงก่อนถึงห้างเซนทรัล พระราม 9 พบรถกระบะกับแท็กซี่ขับปาดกันไปมา ก่อนจะจอดรถแล้วคนขับก็ลงมามีปากเสียงกัน ชกต่อยกัน ต่างฝ่ายต่างชก ตนและชาวบ้านจึงช่วยกันห้าม ก่อนที่ทั้งคู่จะแยกย้ายกันไป โดยรถแท็กซี่เลี้ยวซ้ายไปทางถนนพระราม 9 ส่วนรถกระบะขับมุ่งหน้าแยกมารยาทดี ตอนตนได้ผู้โดยสารไปทางเดียวกับรถกระบะพอดี เลยเห็นขณะรถกระบะหักซ้ายชนจยย.ที่จอดอยู่ข้างรพ.พระราม 9 เสียหายประมาณ 8 คัน ก่อนที่รถดังกล่าวจะไปชนเสาไฟฟ้า
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า จากการสอบสวนและตรวจสอบกล้องวงจรปิดหน้ารถกระบะคันที่เกิดเหตุ พบว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายมีเรื่องทะเลาะวิวาทชกต่อยกับคนขับแท็กซี่ สีชมพูขาว หมายเลขทะเบียน ทส 6881 กทม. คู่กรณี บริเวณหน้าห้างเซนทรัล พระราม 9 ก่อนชาวบ้านมาห้ามจึงแยกย้ายกันไป จากนั้น รถของผู้ตายได้ขับไปทางแยกมารยาทดี โดยมีลูกสาวคนโตอายุ 22ปี กับคนเล็ก อายุ 12 ปี นั่งรถมาด้วย แต่ระหว่างที่ผู้ตายขับรถอยู่นั้นเกิดหมดสติ ลูกสาวจึงตะโกนเรียกพ่อหลายครั้ง กระทั่ง รถเอียงเข้าข้างทางพุ่งชนจยย.ข้างทาง ก่อนชนเสาไฟฟ้า ตอนนั้นผู้ตายอาจยังมีสติ จึงพยายามออกมานอกรถ ก่อนจะล้มลงเสียชีวิต ส่วนลูกสาวคนโตได้รับบาดเจ็บหัวแตก 1 คน ถูกตัวนำส่งรพ.คามิลเลียน
ทั้งนี้หากญาติผู้ตายติดใจในส่วนของคดีทะเลาะวิวาท ก็สามารถแจ้งความได้ที่สน.ห้วยขวาง เจ้าของพื้นที่ได้เบื้องต้น ตำรวจพบตัวคนขับรถแท็กซี่คู่กรณีแล้ว จาการสอบปากคำเจ้าตัวยอมรับว่ามีการทะเลาะวิวาทกับผู้ตายจริง ส่วนสาเหตุ เนื่องจากมีการขับรถปาดหน้ากันไปมา ยืนยันไม่มีการเฉี่ยวชนแต่อย่างใด ในส่วนของสน.มักกะสัน จะทำในส่วนของการเสียชีวิต ซึ่งหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้นำศพส่งนิติเวชรพ.รามาธิบดี เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการตายที่แน่ชัดต่อไป