สวยตาแตก "อแมนด้า" อวดโฉมชุดราตรี "ดอกไม้ไฟ" บนเวทีมิสยูนิเวิร์ส 2020
สวยตาแตก "อแมนด้า" อวดโฉมชุดราตรี "ดอกไม้ไฟ" บนเวทีมิสยูนิเวิร์ส 2020 เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 15 พฤษภาคม ตามเวลาประเทศไทย กองประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2020 (ครั้งที่69) จัดการประกวดรอบพรีลิมมินารี
ทำเอาแฟนคลับที่ตั้งตารอชม และลุ้นตามว่าปีนี้ ชุดราตรีของสาวไทยในเวทีการประกวดมิสยูนิเวิร์ส2020 รอบ Preliminary จะออกมาในรูปแบบไหน
แต่ด้วยความปังของ อแมนด้า ออบดัม ไม่ทำให้แฟนคลับชาวไทยผิดหวังเลยสักนิด เสียงกรี๊ดในฮอลดังสนั่น หลังอแมนด้าเดินออกมาให้ยลโฉม ในชุดราตรีดอกไม้ไฟ ของแบรนด์
"Fireworks Embellished Two-Pieces Gown” ชุดราตรีสองชิ้น ปักลายพลุ จากแบรนด์วาเลนเทียร์ (Valentier) แบรนด์เสื้อผ้า ready-to-wear สัญชาติไทย
ชุดราตรีสองท่อนสีทองนี้ ถูกเล่าผ่านลวดลายและเฉดสีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากพลุ หลังจากที่ "คุณบิ๊ก ดนวัต พฤกษ์ชินวร" ดีไซน์เนอร์และผู้ก่อตั้งแบรนด์ ได้พูดคุยกับ "อแมนด้า ออบดัม” เกี่ยวกับเรื่องราวที่เธออยากจะบอกผ่านชุดราตรีนี้ ในขณะที่เธอยืนอยู่บนเวที Miss Universe
ให้ผู้คนทั่วโลกได้รับรู้ถึงตัวตนของเธอว่าเธอเปนคนเข็มแข็งมากแค่ไหนและสิ่งสำคัญคือเธออยากจะมีเสียงที่ทรงพลังที่จะบอกไห้ทุกคนบนโลกใบนี้ หันมารับฟังเสียงของกันและกัน เข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกัน
พลุ(Firework) จึงเป็นภาพที่ดีไซน์เนอร์ต้องการวาดออกมาเพื่อเป็นตัวแทนทั้งความงามและพลังของผู้หญิงที่ได้พูดและแสดงไห้โลกใบนี้ได้เห็นว่าเธอมีสิ่งที่อยากจะบอก และทุกคนต้องหยุดและหันมาฟังในสิ่งที่เธอต้องการจะพูด เหมือนกับเสียงของพลุ ที่เมื่อไหร่มันถูกจุดขึ้น ทุกคนจะต้องหยุดฟังและหันไปมองว่าพลุนั้นมีความงดงามมากเพียงใด อีกทั้งสีทองของพลุยังเป็นภาพแทนการเฉลิมฉลองความสำเร็จ (Achieve The Universe) ของอแมนด้าที่ได้ต่อสู้และฝ่าฟันไปจนสู่ก้าวที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต ก้าวที่ทุกคนจะหันมามองและรับฟังเธอ และเป็นก้าวที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอไปตลอดกาล
หากพูดถึงเทคนิคและดีเทลงานปัก จะเห็นว่ามีความผสมผสานลายเส้นของพลุที่มีความโค้งมนแสดงถึงความอ่อนโยน กับลายกราฟฟิคเส้นตรงที่แสดงถึงความแข็งแรง ทำให้ชุดนี้มีทั้งความอ่อนโยนและความเข้มแข็งรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน งานปักที่ผสมผสานทั้งคริสตัล เลื่อม ลูกปัดและปล้องอ้อย ถูกเรียงและไล่เฉดสีไห้เกิดไดนามิคที่เหมือนกับพลุ โดยใช้เวลาในการปักด้วยมือถึง 720 ชั่วโมง
นอกจากนั้นโครงชุด(Silhouette)และคัทติ้งต่างๆยังถูกหยิบยืมมาจากภาพของนักรบหญิง(women warrior) ที่มีความแข็งแกร่ง ทะมัดทะแมงและคล่องตัวสูงและแสดงถึงความพร้อมในการต่อสู้ของอแมนด้าบนเวทีMiss Universe รวมถึงดีไซน์เนอร์ได้ตั้งใจออกแบบไห้ชุดนี้เป็นสองชิ้น (Two Pieces Gown) เพื่อเพิ่มความโมเดิร์นให้กับชุดและผู้สวมใส่ให้ดูทันสมัย เพราะผู้หญิงยุคใหม่ที่จะก้าวไปสู่ความเป็นสากล ต้องเป็นผู้หญิงที่ทะมัดทะแมงและมีความคล่องตัวสูงสามารถเผชิญสิ่งต่างๆได้ในทุกสถานการณ์
อีกส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือเครื่องประดับที่นำมาคอมพลีทลุคให้ดูสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น จากแบรนด์ Jee’s Jewelry แบรนด์เครื่องประดับ Fine Jewelry ของดีไซน์เนอร์ไทยอย่าง “คุณโบ จีรนันท์” ต่างหูคู่นี้ถูกออกแบบมากจากไอเดียเดียวกับกันชุด (Firework) เพื่อความสมบูรณ์แบบของลุคที่จะนำเสนอบนเวทีระดับโลก ตัวเรือน Gold Plate ที่ประดับไปด้วย พลอยและ White Cubic Zirconia ที่เสมือนกับแสงไฟที่ถูกจุดขึ้นและส่องสว่างจากภายในสู่ภายนอก รวมไปถึงตัวเรือนที่ถูก custom made ขึ้นมาโดยเฉพาะ รวมไปถึงการฉลุตัวเรือนและฝังพลอยอย่างปราณีตโดยช่างทองฝีมือที่ดีที่สุดจากทางแบรนด์ ทำให้ได้เครื่องประดับชิ้นที่เหมาะที่สุดสำหรับลุคนี้
Couture-To-Wear คือสิ่งที่ วาเลนเทียร์ (Valentier) พยายามนำเสนอมุมมองใหม่ๆไห้กับวงการนางงาม หลายคนอาจมองว่าเสื้อผ้ากูตูร์เป็นสิ่งที่เอื้อมไม่ถึง ชุดราตรีชุดนี้จึงถูกออกแบบลดทอนลงมา โดยยังคงงานปักและเทคนิคชั้นสูง(Haute Couture)แต่ผสมผสานให้อยู่ในรูปแบบของเสื้อผ้าสำเร็จรูป (Ready-To-Wear) เพื่อให้ดูจับต้องได้มากขึ้น "นางงามต้องเข้าถึงง่าย แฟชั่นและความงามก็ควรเป็นสิ่งที่จับต้องได้เช่นเดียวกัน"
ขอบคุณข้อมูลจาก : Donnawat Perkchinnaworn