เจ้าของโรงงานพลาสติก เสียหายเป็นล้าน แต่ยังขออุ้มพนักงานไว้ทุกคน

จากกรณีรายงานข่าวเมื่อเวลา 15.50 น. วันที่ 16 พ.ค. ร.ต.อ.สุรกิจ สุดตานา รอง สว. (สอบสวน) สน.สายไหม รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ บริษัท เอ็มสเทรด จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานพลาสติกภายใน
ถ.สุขาภิบาล 5 ซ.39 แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพ จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบพร้อมประสานเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร กว่า 30 คัน เข้าพื้นที่  โดยใน 18.30 น. เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเริ่มควบคุมเพลิงไว้ได้ เหลือเพียงกลุ่มควัน

ที่เกิดเหตุเป็นโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก และโฟม เป็นโกดังขนาดใหญ่ เนื้อที่ประมาณ 40 ไร่ พบแสงไฟลุกท่วมในพื้นที่ด้านในโกดัง และเกิดกลุ่มควันขนาดใหญ่ลอยเหนือท้องฟ้า สูงหลายสิบเมตร สามารถมองเห็นได้จากระยะไกล เจ้าหน้าที่เร่งฉีดน้ำสกัดกั้นเพลิงไม่ให้ลุกลาม เนื่องจากพื้นที่ของโรงงานติดกับหมู่บ้านของประชาชน ทั้งนี้มีเสียงระเบิดเกิดขึ้นเป็นระยะโดยขณะเกิดเหตุมีพนักงานอยู่ในโรงงานดังกล่าวแต่เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือออกมาได้หมดแล้ว  ผ่านไปเกือบ 2 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้

 

 

ทางด้านพล.ต.ต.อัศวยุทธ นุชพุ่ม ผบก ประจำ บช.น.รรท.ผบก.น.2 ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุโดย พ.ต.อ.อำนาจ กาหลง ผกก.สน.สายไหม รายงานเหตุว่า พื้นที่โรงงานดังกล่าวมีลักษณะเป็นตัวแอล เพลงเกิดขึ้นที่อาคารหน้าหน้าโรงงาน ขณะเกิดเหตุมีคนงานชาวพม่าและคนงานชาวไทยทำงานอยู่ พบเพลิงลุกไหม้ที่อาคารเก็บเม็ดพลาสติก ก่อนแสงเพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว กระแสลมโหมให้เพลิงลุกไปไปส่วนท้ายของโรงงาน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำงานใช้น้ำดับสกัดต้นเพลิงจุดเกิดเหตุ และกันส่วนที่ลุกลามไม่ให้ติดไปยังบ้านเรือนประชาชนกระทั่งเวลา 18.30 น. เริ่มควบคุมเพลิงไว้ได้ เหลือเพียงกลุ่มควัน โดยเจ้าหน้าที่ยังคงฉีดน้ำดับถ่านไว้ไม่ให้เพลิงปะทุขึ้นอีก

 

 

ขณะที่นายวิชิต เจ้าของโรงงานพลาสติก ย่านสุขาภิบาล 5 ที่เกิดเพลิงไหม้อย่างรุนแรง เจ้าตัวบอกว่า ตอนนี้ยังประเมินไม่ได้ถึงความเสียหาย แต่สินค้าและวัตถุดิบ รวมถึงอาคารไฟไหม้เสียหายทั้งหมด เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น เพราะโรงงานเปิดมา 30 ปีแล้ว ระบบดับเพลิงก็เตรียมการไว้อย่างดี และเราก็เตรียมพร้อมให้พนักงานซ้อมดับเพลิงทุกปี แต่เพราะวันเกิดเหตุเป็นวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันหยุด มีคนมาทำงานน้อย คงดับกันไม่ทัน กว่าจะรู้อีกทีก็บานปลายแล้ว นอกจากนี้คุณวิชิตตอบทันทีว่าผมไม่ทิ้งแน่นอน เรายังจะดูแลพนักงานแน่นอน ไม่เคยทิ้งลูกน้อง เราอยู่กันเป็นครอบครัว แต่เราอาจจะต้องย้ายให้พนักงานไปทำงานอีกที่ก่อน