เจ๊หนึ่ง แม่เงินกู้ลพบุรี ทนไม่ไหวเปิดปาก อ้างแค่ขู่ให้กลัว ที่จริงใจดี
เจ๊หนึ่ง แม่เงินกู้ลพบุรี โดนแฉแหลกจนทนไม่ไหว ยอมเปิดปากพูด อ้างไม่ได้ใจร้าย แต่เป็นคนเสียงดัง ลั่นแท้จริงเป็นคนใจดีแต่คนเป็นหนี้ก็ต้องใช้ แต่ไม่รอดโดน ตร.แจ้ง 3 ข้อหาหนัก
จากก่อนหน้านี้ลูกหนี้รายหนึ่งสุดทน จนนำคลิปที่ เจ๊หนึ่ง แม่เงินกู้ลพบุรี ได้ทำการข่มขู่ลูกหนี้ด้วยวิธีการสุดโหด ด้วยการใช้ปืนข่มขู่และให้ลูกหนี้สาวตบหน้าตัวเอง พร้อมกับย้ำถามซ้ำๆ ว่าครั้งหน้าจะไม่ตรงต่อเวลาอีกไหม อีกทั้งยังทำท่าทีไม่เกรงกลัวกฎหมาย และยังอ้างว่ามีคนใหญ่คนโตคอยหนุนหลัง ทำให้กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ยังมีคลิปอื่นๆ ที่ เจ๊หนึ่ง และสามีตามไปทวงเงินลูกหนี้และถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ ซึ่งบางคลิปเป็นภาพเจ้าหนี้กำลังตบลูกหนี้ พร้อมถามว่าจะบิดอีกไหม ทำแบบนี้กับแม่กูได้ยังไง ขอโทษแม่กูด้วย ซึ่งเกิดขึ้นในพื้นที่โคกตูมเช่นกัน อีกทั้งยังมีคลิปที่เกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอโคกสำโรง ซึ่งเจ๊หนึ่งไปเคาะประตูทวงหนี้ถึงหน้าบ้าน ก่อนที่ผู้สูงวัยในบ้านจะบอกว่า ลูกหนี้ของเธอไม่อยู่ ทำให้ เจ๊หนึ่ง โมโหมาก พร้อมทั้งตะโกนฝากขู่ไปว่า "ให้ถอนเสาบ้านหนีได้เลย"
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวของ เจ๊หนึ่ง หรือ น.ส.นภาพร ใจมั่น แม่เงินกู้ลพบุรี และสามีมาสอบสวน ซึ่งทาง เจ๊หนึ่ง ยอมรับสารภาพว่า ในคลิปที่มีคนตบหน้าตัวเองนั้น เป็นการว่าจ้างด้วยเงิน 500 บาท และคลิปนี้ถ่ายทำเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว อีกทั้งตนถ่ายคลิปนี้ไว้เพื่อเอาไว้ขู่ลูกหนี้ที่ต้องการเบี้ยวเงินหรือจ่ายแชร์ช้า และอาวุธปืนที่ใช้ข่มขู่ก็เป็นของปลอม พร้อมทั้งขอความเห็นใจว่าตนเองไม่ใช่เจ้าหนี้รายใหญ่ บ้านก็ยังเช่า และเพิ่งมาปล่อยเงินกู้ได้ไม่นานแต่กลับมีเรื่องขึ้นมาเสียก่อน
เจ๊หนึ่ง เจ้าแม่เงินกู้ลพบุรียังระบุ อีกด้วยว่า เธอไม่ได้เป็นเจ้าแม่เงินกู้โหด แต่แค่เสียงดัง อีกอย่างเบื้องหลังจากที่เธอด่าพวกลูกหนี้เสร็จแล้วเธอก็ตามช่วยเหลือตลอด เช่น ถ้ามึงไม่มี งั้นมึงยังไม่ต้องให้กู แล้วมึงมีเงินซื้อให้ลูกมึงกินมั้ย ถ้าไม่มีกูช่วย อีกอย่างคือคลิปเหล่านั้นคือทางเธอเป็นคนถ่ายเอง ซึ่งเธอบอกว่าถ่ายเอาไว้ขู่ลูกหนี้ และที่บอกว่าเธอมีคนหนุนหลังใหญ่โตนั้นคือไม่จริงเลย
อย่างไรก็ตาม ด้านพ.ต.อ. อุกฤษ ภู่กลั่น รองผู้บังคับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี ได้เปิดเผยว่าได้แจ้งข้อหากับ เจ๊หนึ่งและสามี ไปแล้ว 3 ข้อหา อันได้แก่ ความผิดฐานเรียกดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตราเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด พร้อมกับข้อหา ร่วมกันมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
