ผลสำรวจฟ้อง ผู้ใหญ่ออสเตรเลีย 1 ใน 3 อาจไม่รับวัคซีนโควิด-19
บริษัทวิจัยจากออสเตรเลีย เผยแพร่ผลสำรวจพบว่าผู้ใหญ่ชาวออสเตรเลียเกือบ 1 ใน 3 อาจไม่เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เนื่องจากมีข้อกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงของวัคซีน บวกกับพึงพอใจต่อมาตรการปิดพรมแดนระหว่างประเทศที่เข้มงวด
ผลสำรวจพบว่ามีผู้ตอบแบบสอบถามเพียงร้อยละ 14 ที่บอกว่าพวกเขามีแนวโน้ม “สูงมาก” ที่จะรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ขณะที่อีกร้อยละ 8 มีแนวโน้ม “มาก” ส่วนร้อยละ 13 มีแนวโน้ม “ปานกลาง” ที่จะรับวัคซีน
ผลสำรวจพบว่าประชาชนมีความไม่มั่นใจในวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 สูงกว่าเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายนปีก่อน รวมถึงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เนื่องจากความเสี่ยงเกิดอาการลิ่มเลือดอุดตันซึ่งเกี่ยวข้องกับวัคซีนของแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) ในกลุ่มผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 50 ปี นอกจากนั้นหลายคนยังเชื่อว่าไม่จำเป็นต้องรีบฉีดวัคซีนขณะที่มีการปิดพรมแดนระหว่างประเทศอยู่
สัญญาณที่สะท้อนถึงความลังเลในการรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครั้งใหม่นี้ แสดงให้เห็นถึงความท้าทายในการบรรลุเป้าหมายสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ต่อโรคโควิด-19 ขณะที่สกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ยกระดับคำเตือนเกี่ยวกับอันตรายจากโรคโควิด-19 ในระดับโลก
เมื่อวันอังคาร (18 พ.ค.) มอร์ริสันยอมรับระหว่างแถลงข่าว ว่ารัฐบาลจำเป็นต้องเพิ่มประสิทธิภาพในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับผู้ป่วยในสถานดูแลผู้ทุพพลภาพ หลังจากแผนฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุในบ้านพักคนชราล่าช้ากว่ากำหนดหลายเดือน
หลายรัฐของออสเตรเลียยังกำหนดให้การฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เป็นเงื่อนไขสำคัญสำหรับการเปิดพรมแดนระหว่างประเทศ ขณะมีผู้เรียกร้องให้ผ่อนปรนข้อจำกัดด้านพรมแดนอย่างระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น
กลาดีส์ เบเรจิกเลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ (NSW) แถลงข่าวเมื่อวันอังคารว่า นิวเซาท์เวลส์ตั้งเป้าฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับประชาชนร้อยละ 75-80 ของจำนวนประชากรทั้งหมดก่อนที่จะเปิดพรมแดนอีกครั้ง พร้อมย้ำว่าเราไม่สามารถเปิดพรมแดนได้หากประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน
ด้านเจมส์ เมอร์ลิโน รักษาการมุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่าความคืบหน้านั้นขึ้นอยู่กับการดำเนินแผนฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 และการกักตัวของรัฐบาลกลาง ซึ่งรวมถึงงบประมาณของเครือจักรภพ ที่รัฐบาลกลางเสนอเพื่อจัดตั้งศูนย์กลางกักตัวแห่งล่าสุดในเมืองเมลเบิร์น
ขอบคุณ xinhuathai