แม่ใจสลายลูกแฝดเสียชีวิต ช้ำรพ.ดังสุพรรณฯส่งโลงเปล่าให้ไปประกอบพิธี
คุณแม่สุดช้ำ หัวใจแตกสลายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ลูกน้อยฝาแฝดแรกเกิดเสียชีวิต โรงพยาบาลดังสุพรรณบุรีส่งเพียงโลงเปล่าไปประกอบพิธีทางศาสนา พร้อมกำชับห้ามเปิด ก่อนหลวงพ่อสั่งให้เปิดเพราะจะมัดตราสังข์ใหม่ จึงรู้ความจริง
กลายเป็นเรื่องราวที่ปวดใจคนที่ได้เห็นเหตุการณ์มากที่สุดอีกเคสหนึ่ง เมื่อผู้ใช้แอพลิเคชั่น TIKTOK รายหนึ่งได้โพสต์คลิป พร้อมทั้งระบุว่า "ดีนะที่หลวงตาให้เปิดโลงมัดสายสิญจน์ ใหม่ ไม่งั้นพวกเรา คงต้องเผาแต่ผ้าขนหนู ทำได้ยังไง ให้จับผ้าขนหนูมาแล้วร่างของเด็กอยู่ไหน"
โดยคุณแม่ของหนูน้อยโชคร้ายได้เล่าว่า ตนคลอดลูกฝาแฝดเป็นชาย 1 คน และ หญิง 1 คน ที่โรงพยาบาลชื่อดังในตัวเมืองสุพรรณบุรี แต่ลูกๆ ของตนไม่แข็งแรงจึงต้องเข้าตู้อบทั้งคู่ และต้องอยู่ที่โรงพยาบาลตลอดตั้งแต่คลอด
แต่หลังจากนั้นทางโรงพยาบาลชื่อดังเมืองสุพรรณบุรี ได้แจ้งให้คนเป็นแม่ทราบว่า ลูกของเธอเสียชีวิตไปหนึ่งคน ซึ่งสาเหตุเกิดจากเด็กติดเชื้อในกระแสเลือด พร้อมทั้งให้เธอและสามีไปรับร่างของลูกๆ ที่โรงพยาบาล พร้อมกำชับห้ามให้ทางครอบครัวเปิดโลงของเด็กเด็ดขาด โดยอ้างว่ากลัวทางครอบครัวจะติดเชื้อ
ทว่าเมื่อมาถึงวัดเพื่อจะประกอบพิธีทางศาสนา หลวงพ่อให้บอกให้ญาติๆ เปิดโลงของเด็กออก เพื่อที่จะมัดตราสังข์ใหม่ จึงได้ทราบความจริงว่า ในโลงนั้นมีเพียงผ้าขนหนูอยู่
ทางด้านในโลกโซเชียลได้ติดตามและจับตากับเรื่องนี้อย่างมาก โดยเพจ เจ๊ม้อยv plus ได้โพสต์ข้อความระบุว่า "#อยากให้ทุกคนดูข่าวอย่างมีสติ โรงพยาบาลควรออกมาชี้แจงให้กับสังคมได้รับรู้ ทุกอย่างมีเหตุและผลเสมอ หากเป็นอย่างที่ครอบครัวกล่าวอ้างว่าร่างเด็กนั้นหาย ก็ขอแสดงความเสียใจและต้องให้ความช่วยเหลือ แต่หากทางโรงพยาบาลมีคำตอบกับเรื่องนี้ก็คงต้องให้ความเป็นธรรมด้วยค่ะ #ควรได้รับความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
เจ๊คะฝากเรื่องนี้ด้วยค่ะ อยากรู้ความจริงว่าคืออะไร เด็กเสียชีวิตที่โรงพยาบาล หมอไม่ให้เปิดดู กับมาเผาพระให้เปิดกับไม่มีเด็กอยู่ในโลง เด็กล่องหนหายไปไหน น่ากลัวจัง คนที่บอกว่าท้องทิพย์คืออะไร มีฟิล์มอัลตราซาวด์ไปหาหมอตามนัด หมอฉีดยาเล่งคลอด ออกก่อนกำหนด เอาเด็กไปอบ 2 คน ชาย 1 หญิง 1 เด็กเสียไป 1 หมอให้ไปรับเด็กแล้วตอนนี้หายไปด้วย นมแม่มันยังอยู่ในตู้เย็บที่บ้านอยู่เลยคอยเอาไปให้ลูกที่อบอยู่ ที่ โรงพยาบาล บ้านพักไม่มีช่องฟรีชมาฝากที่บ้านเราไว้ เห็นใจคนเสียหายด้วยค่ะ"