สาวเพิ่งตรวจเจอเชื้อโควิด-19 หลังไปบริจาคโลหิต แถมเลือดถูกนำไปใช้แล้ว
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดไทม์ไลน์สาวเพิ่งตรวจเจอเชื้อโควิด-19 หลังไปบริจาคโลหิต แถมเลือดถูกนำไปใช้แล้ว ด้าน นพ.ยง เผยอาจพ้นระยะฟักเชื้อแล้ว และเชื้อในเลือดจะมีน้อยมาก
เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 64 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้มีการเปิดไทม์ไลน์ผู้ป่วยโควิด รายที่ 1,534 ของการระบาดระลอกใหม่ เป็นหญิง อายุ 34 ปี อาชีพพนักงานจ้าง โดยไทม์ไลน์ที่น่าสนใจก็คือ พบว่าผู้ป่วยได้ไปบริจาคเลือดและเลือดดังกล่าวก็ถูกนำไปใช้แล้ว แต่ยังไม่ชัดเจนว่าติดก่อนหรือหลังบริจาคเลือด ซึ่งจากการตรวจสอบไทม์ไลน์มีดังนี้
วันที่ 26-30 เม.ย. 64 เวลา 08.30 - 16.30 น. ไปทำงานที่ เทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ พบเพื่อนที่ ทำงาน 18 คนใส่ Mask ตลอดช่วงเที่ยงกลับไปกินข้าวบ้าน (ร้านเช่ารถมอเตอร์ไซด์ ถ.ชายทะเล ต.ประจวบ อ.เมือง) ทุกวันมีการพูดคุยกับ ญาติๆ 9 คน ที่บ้าน ทานอาหารไม่พร้อมกัน อยู่บ้านไม่ใส่ Mask
วันที่ 1 พ.ค.64 ช่วงเช้าอยู่บ้านตลอด เวลา 13.00 - 14.20 มา โรงพยาบาลประจวบฯ โดยรถจักรยานยนต์กับเพื่อน รุ่นน้องที่อยู่ข้างบ้าน 1 คน บริจาคเลือดที่ รพ.ประจวบๆ พบเจ้าหน้าที่ 2 คน กลับบ้าน ใส่ Mask ตลอด
วันที่ 2 พ.ค.64 อยู่บ้านตลอด เวลา 18.40 ไปซื้อต้มเล้ง ที่ร้นอชิ แถวนารอง อ.เมือง ซื้อกลับมาทาน ที่บ้าน ใส่ Mask ตลอด
วันที่ 3 พ.ค.64 เวลา 08.30 ออกจากบ้านไปทำงานที่เทศบาล ทำงานในห้องแอร์ มีเจ้าหน้าที่ ในห้อง 10 คน ใส่ Mask ตลอด 12.00 กลับบ้านมาทานข้าว ไม่ใส่ Mask 13.00 - 16.30 กลับไปทำงานที่เทศบาล ใส่ Mask 16.30 กลับบ้าน ไม่ใส่ Mask และ 19.20 20.00 ไปโลตัสกับน้องและหลานโดยรถจักรยานยนต์ แวะร้านโทรศัพท์ที่อยู่ตรงข้ามร้านทอง และเข้าไปกิน KFC ใส่ Mask ถอด Mask เวลารับประทาน
วันที่ 4 พ.ค. 64 อยู่บ้านตลอดไม่ได้ไปไหน อยู่บ้านไม่ใส่ Mask เวลา 13.20-13.50 น.ไป ตลาดสด กับหลาน ซื้อถั่วลิสง ถั่วงอก ผักชี ร้านเกียงลูกชิ้น หมูสับโชคอนันต์ เข้าไปในร้านคนเดียว หลานอยู่ข้างนอก ใส่ Mask
วันที่ 5-6 พ.ค.64 เวลา 08.30-12.00 น. ไปทำงานตามปกติ อยู่ที่ทำงาน ไม่ได้ออกไปไหน ใส่ Mask ตลอด ช่วงเที่ยงกลับบ้านไปทานอาหารที่บ้าน อยู่บ้านไม่ใส่ Mask
วันที่ 7 พ.ค.64 เวลา 08.30-12.00 น. ไปทำงาน กลับบ้านครึ่งวัน เพราะมีอาการปวดศีรษะ เวลา 17.50 เพื่อนซื้อ โจ๊กกับยา มาให้ รับของและพูดคุย 5 นาที ยืนห่างๆ ใส่ Mask
วันที่ 8 พ.ค.64 อยู่บ้านตลอด ไม่ใส่ Mask
วันที่ 9 พ.ค.64 เริ่มมีอาการปวดศีรษะ มีไข้ ไอแห้งๆ
วันที่ 10-11 พ.ค.64 อยู่บ้านตลอด ไม่ได้ออกไปไหน คิดว่าเป็นไข้หวัดใหญ่
วันที่ 12 พ.ค.64 เวลา 09.00-09.30 น. ไปหาหมอที่ คลินิก ธนารักษ์ เจอแพทย์ 1 คน เจอเจ้าหน้าที่ 1 คน ( มีผู้อื่นในคลินิกอีก 3 คน) ไปกับแม่ โดยรถจักรยานยนต์ เสร็จแล้วกลับบ้าน ใส่ Mask ตลอด
วันที่ 13-15 พ.ค.64 อยู่บ้านตลอด
วันที่ 16 พ.ค. 64 เวลา 18.00-18.20 น.มีอาการเหนื่อย อ่อนเพลีย ไม่มีแรง แม่พาไปคลินิกแพทย์ทิพย์สุมล (มีแพทย์ เจ้าหน้าที่ และคนไข้ 2 คน) แพทย์เขียนรายละเอียด และส่งให้มาตรวจที่ โรงพยาบาลประจวบฯ และ 18.30 ไป ห้องฉุกเฉิน ที่ โรงพยาบาลประจวบฯ แพทย์ให้นอนโรงพยาบาล และ ตรวจหาเชื้อ Covid-19
วันที่ 17 พ.ค.64 เวลา 15.00 รพ. แจ้งผลตรวจพบเชื้อ Covid-19
ด้าน ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ กล่าวว่า ต้องเอาเลือดไปตรวจแล็บ จะบอกได้เลยว่ามีเชื้อมั้ย เบื้องต้นถ้าดูจากไทม์ไลน์ไปบริจาคเลือดวันที่ 1 พ.ค. และผลตรวจออกมาว่าติดเชื้อในวันที่ 17 พ.ค. ซึ่งเกิน 14 วันแล้ว แปลว่าพ้นระยะการฟักเชื้อแล้ว โอกาสติดต่อทางเลือดน้อยมาก แต่ประเด็นคือเริ่มปรากฎอาการตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค. คือ 6 วันหลังไปบริจาคเลือด แต่จากผลการศึกษาพบว่าเชื้อโควิดในเลือดพบน้อยมาก โอกาสแพร่ทางเลือดน้อยกว่าไอและจาม
ขณะที่ พญ.สุชาดา เรืองเลิศพงศ์ กุมารแพทย์โรคติดเชื้อโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยจากกรณีพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายดังกล่าว ได้มาบริจาคเลือดที่ รพ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 64 ที่ผ่านมา ก่อนผลตรวจยืนยันติดเชื้อโควิดในวันที่ 17 พ.ค. 64 ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นขอยืนยันว่า ขั้นตอนการรับบริจาคโลหิตของโรงพยาบาล มีการคัดกรองผู้มาบริจาคโลหิตเข้มงวดตามมาตรฐานของสภากาชาดไทย มีการซักประวัติพฤติกรรมเสี่ยง การสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิดในช่วง 14 วัน หากพบว่าเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงก็จะงดรับบริจาคโลหิต
สำหรับเจ้าหน้าที่งานคลังเลือดมีการสวมชุดป้องกันการติดเชื้ออย่างรัดกุมและสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา มีฉากกั้น ทำให้มั่นใจได้ในความปลอดภัย สำหรับโลหิตของหญิงผู้ป่วยรายดังกล่าวแม้จะมีการนำไปใช้แล้ว แต่ปัจจุบันยังไม่เคยมีรายงานผู้ป่วยโควิดรายใด ที่ติดเชื้อมาจากการใช้โลหิตสำรองในการรักษาแม้แต่รายเดียว รวมทั้งได้มีการติดตามอาการของผู้ป่วยที่รับโลหิตไปใช้ในการรักษา ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังพบว่าอาการปกติดีและจะมีการติดตามอาการอย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง