"คนไทย"เล่าประสบการณ์ การได้ฉีดวัคซีนโควิด-19ที่จีน
เพียงแค่สแกนรหัสคิวอาร์ ล็อกอิน กรอกข้อมูลบนโทรศัพท์มือถือ และอ่านข้อควรระวังให้เรียบร้อย คุณก็สามารถฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
เมื่อไม่นานมานี้ ชาวไทยจำนวนมากที่ทำงานในสถานศึกษาต่างๆ ของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีน ได้สัมผัสมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของจีนที่ทั้งรวดเร็วฉับไวและชวนให้อุ่นใจของเจ้าหน้าที่ชาวจีน
อรอนงค์ นามเดช ชาวไทยจากจังหวัดเพชรบุรี ทำงานอยู่ที่ประเทศจีนมาเป็นเวลา 15 ปีแล้ว ปัจจุบันเธอเป็นครูสอนภาษาไทยอยู่ที่มหาวิทยาลัยภาษาต่างประเทศกว่างซี
“ฉันฉีดวัคซีนโดสแรกแล้ว ไม่มีผลข้างเคียงเลย” อรอนงค์กล่าวพร้อมรอยยิ้ม เธอเล่าว่าช่วงต้นเดือนพฤษภาคม โรงพยาบาลจัดตั้งจุดฉีดวัคซีนชั่วคราวขึ้นในมหาวิทยาลัย โดยเปิดให้ครูและนักศึกษาเข้ามารับวัคซีนได้ตามสมัครใจ และมีคนมาลงทะเบียนเข้ารับวัคซีนมากเกินคาด
“เราแค่สแกนรหัสด้วยวีแชทแล้วก็กรอกข้อมูล จากนั้นแพทย์จะจัดการให้เราเข้ารับวัคซีน ใช้เวลาลงทะเบียนกับล็อกอินแค่ 5 นาที สะดวกและรวดเร็วมากค่ะ” อรอนงค์ ผู้ได้รับวัคซีนชนิดเชื้อตายของซิโนแวคกล่าว โดยผู้ที่รับวัคซีนซิโนแวคจะต้องฉีดทั้งหมด 2 โดส เว้นระยะการฉีด 3 สัปดาห์ขึ้นไป
จีนวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของจีนหลายตัวได้รับการอนุมัติให้วางขายในตลาดแล้ว ส่วนหนึ่งในนั้นคือวัคซีนชนิดเชื้อตาย 3 ตัว และวัคซีนชนิดใช้อะดิโนไวรัสเป็นตัวนำพา 1 ตัว เมื่อนับถึงวันที่ 16 พ.ค. จีนฉีดวัคซีนให้ประชาชนแล้วกว่า 400 ล้านโดส
เบญจมาศ โออินทร์ เป็นครูสอนภาษาไทยในนครหนานหนิง เมืองเอกของกว่างซี เธอฉีดวัคซีนของจีนแล้วเช่นกัน ในคราแรกเธอวางแผนจะไปต่อคิวฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาล แต่ก็ต้องประหลาดใจเมื่อได้รับแจ้งเกี่ยวการฉีดวัคซีนภายในสถานศึกษา เบญจมาศไม่ต้องเดินทางและไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งทำให้เธอรู้สึกพึงพอใจมาก
ช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2020 เบญจมาศเดินทางจากไทยกลับมายังจีน เธอกักตัวและอยู่ภายใต้การสังเกตการณ์ทางการแพทย์แบบรวมศูนย์เป็นเวลา 14 วัน รวมถึงเข้ารับการตรวจสุขภาพ ทดสอบกรดนิวคลีอิก และผ่านขั้นตอนต่างๆ เช่นเดียวกับผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศคนอื่นๆ
จีนดำเนินมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดที่เข้มงวด เพื่อค้นพบ กักตัว และรักษาผู้ป่วยอย่างทันท่วงที ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงกรณีผู้ป่วยจากต่างประเทศนำเชื้อไวรัสมาแพร่ในประเทศ
มาตรการเหล่านี้ทำให้เบญจมาศรู้สึกสบายใจ ชีวิตของเธอเริ่มหวนคืนสู่ภาวะปกติอีกครั้ง เบญจมาศสามารถออกไปชอปปิง ท่องเที่ยว และเล่นกีฬาได้เช่นเดิม โดยเธอใส่หน้ากากอนามัยอยู่เสมอ
“การระบาดแทบไม่กระทบชีวิตของคนที่นี่ เมื่อใดก็ตามที่พบผู้ป่วยต้องสงสัยหรือได้รับการยืนยันว่าป่วยเป็นโรคโควิด-19 รัฐบาลท้องถิ่นจะรีบจัดการทดสอบกรดนิวคลีอิกขนานใหญ่ทั่วทุกตรอกซอกซอย และจะไม่หยุดจนกว่าจะตรวจครบทุกคน” เบญจมาศกล่าวชม
สิ่งที่เธอเห็นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของงานรับมือโรคระบาดของจีน เพราะนอกจากการตรวจเชื้อแล้ว จีนยังเพิ่มกำลังการผลิตวัคซีน ตั้งจุดฉีดวัคซีนชั่วคราวเพิ่มเติมในหลายพื้นที่ ใช้งานยานพาหนะฉีดวัคซีนเคลื่อนที่เพื่อเข้าถึงสถานศึกษาและชุมชนแห่งต่างๆ เพื่อเร่งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่
เมื่อวันที่ 27 มี.ค. จีนฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ไปกว่า 100 ล้านโดส จากนั้นเพิ่มเป็น 200 ล้านโดสในวันที่ 21 เม.ย. ใช้เวลาเพียง 25 วันเท่านั้น ก่อนจะเพิ่มแตะ 300 กว่าล้านโดส ในอีก 17 วันถัดมา และทะลุ 400 ล้านโดส หลังจากนั้นเพียง 9 วัน
ดร. วันชัย แก้วโสภา เป็นคนกรุงเทพฯ ปัจจุบันทำงานอยู่ที่มหาวิทยาลัยการเงินและเศรษฐกิจกว่างซี เขารับวัคซีนโดสแรกไปเมื่อวันที่ 11 พ.ค. และกำลังรอรับวัคซีนโดสที่ 2 “ผมวางใจในวัคซีนของจีน และผมเชื่อว่าผมจะได้ฉีดอีกครั้งตามกำหนด”
หลังเดินทางกลับมาจีนเมื่อเดือนตุลาคม 2020 วันชัยก็ไม่ได้กลับไปที่ไทยอีก เขากล่าวว่าตนคิดถึงบ้านมาก และหวังว่าการแพร่ระบาดจะสิ้นสุดโดยไว พร้อมส่งเสริมให้ทุกคนเข้ารับวัคซีน “คุณจะฉีดวัคซีนของบริษัทไหนก็ได้ ยิ่งมีคนฉีดมากเท่าไร การระบาดก็จะสิ้นสุดลงเร็วเท่านั้น และเราจะได้กลับมาเดินทางกันอย่างปลอดภัยอีกครั้ง” วันชัยทิ้งท้าย