เปิดไทม์ไลน์ ฝั่งแม่เด็ก-ฝั่ง รพ. สรุปใครพูดไม่จริง หลังดราม่าท้องทิพย์

จากกรณีที่ 2 สามีภรรยา เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรี เอาผิดโรงพยาบาล เนื่องจากคลอดลูกฝาแฝดชายหญิงที่โรงพยาบาลบางปลาม้า แต่ลูกต้องอยู่ตู้อบเนื่องจากเด็กชายไม่แข็งแรง ทำให้ต้องส่งตัวไปเข้าตู้อบที่โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช  ก่อนจะมีการโทรศัพท์มาแจ้งว่าลูกชายเสียชีวิตแล้วให้ไปรับศพ  โดยนิมนต์พระวัดสวนแตง มารับศพลูกด้วย แต่พระเริ่มพบพิรุธ ปกติรับศพผู้เสียชีวิตจะรับที่ตึกนิติเวชชั้นล่างของ รพ.แต่สามีภรรยาคู่นี้ กลับไปรับศพลูกที่อาคารชั้น 3 พระเริ่มสงสัยพฤติกรรมของ 2 สามีภรรยา จึงถามแม่เด็กว่าได้เปิดดูหน้าลูกหรือไม่ แม่เด็กบอกว่าเปิดไม่ได้หมอบอกศพติดเชื้อ 

เมื่อมาถึงวัด 2 สามีภรรยาเปิดฝาโลงเพื่อให้พระทำพิธี และพระเป็นคนเปิดผ้าห่อศพจึงรู้ว่าไม่มีศพเด็ก ตัวภรรยาร้องไห้อย่างหนัก ญาติตำหนิ รพ. และไลฟ์สดเป็นหลักฐานว่าศพเด็กหายเหลือแต่ผ้าขนหนู ก่อนที่เดินทางไปที่โรงพยาบาลเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ว่าศพลูกเธอหายไปไหน และเธอยืนกรานว่าเธอท้องและคลอดที่นี่จริงๆ ในขณะที่โรงพยาบาลโต้ เธอไม่ได้คลอดที่โรงพยาบาล แต่เธอมารักษาจริง ด้วยอาการอุ้งเชิงกรานอักเสบ

 

 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ได้กลายมาเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคม ตกลงว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร ลองมาดูสรุปไทม์ไลน์ที่ทั้ง 2 ฝั่งออกมาโต้เถียงเทียบเปรียบกันชัดๆ

วันที่ 10 พ.ค.2564

ฝั่งสามีภรรยา : มาตรวจครรภ์ที่ รพ.บางปลาม้า หมอบอกว่าเด็กไม่ค่อยแข็งแรง ตัวเล็ก รพ.บอกจะฉีดยากระตุ้นก่อน และยาเร่งคลอด

ฝั่งโรงพยาบาลบางปลาม้า : หญิงสาวมาตรวจที่โรงพยาบาลจริง มีอาการปวดท้องข้างซ้าย ตรวจปัสสาวะพบว่ามีเม็ดเลือดขาวมีเชื้อโรค อุ้งเชิงกรานอักเสบ และตรวจปัสสาวะผลเป็นลบ ไม่พบการตั้งครรภ์ สรุปได้ว่าไม่มีการตั้งครรภ์อย่างแน่นอนเลยให้กลับบ้านไป

วันที่ 11 พ.ค.2564

ฝั่งสามีภรรยา : มา รพ.บางปลาม้า ตรวจปากมดลูกแต่ยังไม่เปิด ทำเรื่องผ่าส่งทางรพ.เจ้าพระยายมราช แต่ขณะกำลังจะส่งไปหัวเด็กโผล่มาครึ่งหนึ่ง จากที่ตอนแรกปากมดลูกไม่เปิด และต้องทำการคลอดโดยใช้เครื่องช่วยเอาเด็กออกมา เป็นฝาแฝดชายหญิง ก่อนจะส่งเด็กทั้งคู่ไปรพ.เจ้าพระยายมราชทันที ตอนเอาเด็กส่งตัวไปรักษาต่อ พ่อเด็กเห็นว่ามีรถพยาบาลออกไปส่ง และทาง รพ.เจ้าพระยายมราชก็ส่งรูปลูกแฝดมาให้ดู

ฝั่งโรงพยาบาลบางปลาม้า : หญิงสาวกลับมาด้วยอาการเดิม จึงแอดมิทที่ รพ.พยาบาล แต่ยืนยันผลตรวจครรภ์เป็นลบ

วันที่ 14 พ.ค.2564

ฝั่งโรงพยาบาลบางปลาม้า : ส่งหญิงสาวกลับบ้านหลังจากอาการดีขึ้น จากการรักษาอาการอุ้งเชิงกรานอักเสบ

ฝั่งสามีภรรยา : หญิงสาวโต้กลับ นอนพักรักษาตัวที่ รพ.บางปลาม้า และพยาบาลที่ รพ.เจ้าพระยายมราช โทรมาบอกอาการลูกตลอดเวลา และลูกใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่ 1 คนคือแฝดผู้ชาย ส่วนแฝดสาวแข็งแรงดี

วันที่ 17 พ.ค.2564

ฝั่งสามีภรรยา : รพ.เจ้าพระยายมราช แจ้งว่าแฝดชายหัวผิดจังหวะ หยุดหายใจไป แต่ปั๊มหัวใจกลับมาได้ และช่วงเที่ยงกับบ่ายโทรมาอีกว่าน้องหยุดหายใจอีกนะ ก็ปั๊มกลับมาได้เหมือนเดิม

วันที่ 18 พ.ค.2564

ฝั่งสามีภรรยา : รพ.เจ้าพระยายมราช โทรมาแจ้งเวลา 21.00 น. แฝดชายเสียชีวิตแล้ว ปั๊มหัวใจกลับมาไม่ได้แล้ว ต้องทำการชันสูตรก่อน แต่แฝดหญิงยังปกติ แข็งแรง 

วันที่ 20 พ.ค.2564

ฝั่งสามีภรรยา : รพ.เจ้าพระยายมราช โทรมาให้ไปรับศพแฝดชายที่ชั้น 3 ในเวลา 16.00 น. ซึ่งทางญาติๆก็ได้เตรียมงานศพที่วัด เพราะจะเผาวันนั้นเลย นอกจากนี้หญิงสาวยังขอไปดูลูกแฝดหญิง แต่ถูกอ้าง รพ.ไม่ให้ดู จึงวานให้พยาบาลช่วยถ่ายรูปแฝดหญิง พยาบาลก็เอาโทรศัพท์เธอเข้าไปถ่ายรูป ซึ่งวันเดียวกันทางญาติๆก็ได้เตรียมงานศพที่วัด

ฝั่งโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช : ออกมาโต้ว่าภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณชั้น 3 หน้าห้องกุมารเวช ช่วงเวลา14.00 น. -18.00 น. ไม่ปรากฏหญิงสาวในภาพ แต่มีรถจอดอยู่ที่ลานจอดรถจริง

ขณะเดียวกันในเย็นวันนั้นเอง ได้มีเพจเฟซบุ๊กโพสต์วิดีโอไลฟ์สดของญาติ 2 สามีภรรยา อ้างว่าหลานเสียชีวิต แต่ทางโรงพยาบาลได้ส่งร่างหลานบรรจุในโลงศพส่งมาให้ แล้วกำชับว่าไม่ให้เปิดกลัวติดเชื้อ แต่เอะใจจึงเปิดโลง กลับไม่พบศพหลานมีเพียงแค่เสื้อผ้า

ทั้งนี้ คำให้การของ 2 สามีภรรยา ขัดกับความจริงด้านหลักฐาน เพราะจากการสืบค้นรูปอัลตร้าซาวด์ที่หญิงสาวโพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว และรูปที่บอกให้พยาบาลถ่ายแฝดหญิงเป็นภาพที่อยู่ในกูเกิ้ล ในปี 2557 อีกทั้งที่บอกว่าฝากครรภ์ที่ รพ.บางปลาม้า แต่ที่ รพ.กลับไม่มีประวัติในเวชเบียน

หลังจากจบรายการโหนกระแส หนุ่ม กรรชัย ได้พาไปตรวจเพื่อพิสูจน์ตรวจช่องคลอดของหญิงสาว ปรากฎว่าไม่มีร่องรอยของการตั้งครรภ์หรือคลอดลูกแต่อย่างใด ซึ่งจากร่างกายของเธอนั้นที่เธอได้บอกว่ามีเลือดซึมหรืออะไรออกมามันเป็นไปได้ว่าคือ มันอาจจะเป็นน้ำคาวปลา หรือ เลือดประจำเดือนที่ออกมาไม่หมด เมื่อหมอได้ตรวจดูรองรอยของการคลอดลูกภายในของเธอแล้วยังพบอีกว่า เธอไม่มีร่องรอยการให้กำเนิดแต่อย่างใด เนื่องจากคุณหมอมองไม่เห็นรอยไหมที่คุณหมอที่ทำคลอดได้เย็บให้เธอเลย สำหรับการคลอดลูกนั้น คุณหมอบอกว่าเมื่อตรวจออกมาแล้วก็พบว่าปากมดลูกจะมีร่องรอยของการฉีกขาด เนื่องจากต้องมีการเปิดปากมดลูกและมีการเย็บ แต่ของหญิงสาวรายนี้ไม่ได้มีร่องรอยนั้นอยู่เลย ส่วนด้านช่องคลอดที่เชื่อมไปยังโพรงมดลูกปกติ ถ้าคนเพิ่งคลอดลูกมันจะมองเห็นเป็นลักษณะคล้ายๆ ช่องโหว่ ดังนั้นในช่วง 10 วัน จะสังเกตเห็นได้ว่า ถ้าคนคลอดหรือไม่คลอดลูกในช่วงนี้เราจะเห็นได้อย่างชัดเจน สรุปได้ว่าไม่มีการตั้งครรภ์ โดยผลสรุปของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร ว่าศพเด็กไปไหน หรือเธอพูดไม่จริงคงต้องรอติดตามกันต่อไป