ความเชื่อโบราณ เปิด 4จุดในบ้าน ที่ห้ามนอนโดยเด็ดขาด อาจพาสิ่งไม่ดีเข้ามา
เป็นความเชื่อที่มีมาตั้งแต่โบราณ จุดอาถรรพ์ภายในบ้านที่ห้ามนอนเด็ดขาด เพราะมันอาจจะนำมาซึ่งสิ่งที่ไม่ดีต่างๆเข้าสู่ตัวเราหรือบ้านเราได้ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
จุดอาถรรพ์ภายในบ้านที่ห้ามนอนเด็ดขาด เป็นความเชื่อที่มีมาตั้งแต่โบราณ มันอาจจะนำมาซึ่งสิ่งที่ไม่ดีต่างๆเข้าสู่ตัวเราหรือบ้านเราได้ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
1. ห้ามนอนใต้ขื่อบ้าน อาถรรพ์ลึกลับของ "ขื่อบ้าน" ตามความเชื่อของคนโบราณที่ว่ากันว่าห้ามนอนใต้ขื่อใต้คาน เพราะบริเวณนี้จะเป็นที่อยู่อาศัยของผีบ้านผีเรือน เพราะในสมัยก่อนมักจะนำต้นไม้ใหญ่มาสร้างบ้าน โดยในต้นไม้นั้นก็เชื่อว่ามีวิญญาณสิงอยู่ หากใครที่นอนใต้ขื่อ ก็อาจจะถูกผีอำได้ บางคนฝันร้ายบ่อยๆ หรือ มีอาการเจ็บป่วยไม่สบาย รู้สึกเจ็บหนักๆเหมือนมีอะไรมาทับ เป็นต้น แต่ในบางความเชื่อก็ว่าเป็นกุศโลบายของคนโบราณที่ไม่อยากให้นอนตรงกับขื่อบ้าน เพราะเกรงว่าขื่อบ้านจะหล่นมาทับนั่นเอง
2. ห้ามนอนตรงกับเสาบ้าน ความเชื่อที่ห้ามนอนตรงกับเสาบ้านก็เช่นเดียวกับขื่อบ้าน เพราะอาจจะทำให้ฝันไม่ดี ฝันร้าย เจอผีอำ หรือเจ็บป่วย แต่ในบางความเชื่อก็ว่าเป็นกุศโลบายของคนโบราณที่ไม่อยากให้นอนตรงกับเสาบ้าน เพราะเกรงว่าเสาบ้านจะหล่นมาทับ
3. ห้ามนอนตรงกับประตู ความเชื่อที่ห้ามนอนโดยหันเท้าตรงกับประตูทางเข้า ก็เพราะเชื่อว่า จะมีวิญญาณเดินผ่านเข้าออกทางประตู เรียกง่ายๆว่า เป็นทางผ่านของผี อาจจะทำให้ผู้นอนฝันร้าย ถูกผีอำ หรือไม่สบายได้
4. ห้ามนอนหันศรีษะไปทางทิศตะวันตก ข้อนี้นิยมปฏิบัติกันมาก เพราะเชื่อกันมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้วว่า ทิศตะวันตก คือทิศของคนตาย สังเกตได้ว่า ศพที่อยู่ในเมรุ จะหันศรีษะไปทางทิศตะวันตก โบราณจึงถือว่า ห้ามนอนไปทางทิศนั้นเช่นเดียวกับศพ เพราะจะทำให้เจ็บป่วย ถูกผีอำ หรือโดนอาถรรพ์ต่างๆได้ จึงนิยมนอนหันศรีษะไปทางทิศตะวันออกหรือทิศเหนือ ส่วนทิศใต้ก็มีความเชื่อเป็นทิศที่ไม่ดีนักสำหรับการนอน
หากใครที่นอนไม่สบาย หลับไม่สนิท มีอาการคล้ายผีอำอยู่บ่อยๆ ลองสำรวจที่ทางที่ตนเองนอนอยู่ แล้วลองเปลี่ยนทิศหรือหลีกเลี่ยงการนอนใต้ขื่อ นอนตรงเสา ตรงประตู และนอนโดยหันศรีษะไปทางทิศตะวันออกดูบ้างก็ไม่เสียหาย แต่ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ก็ล้วนเป็นความเชื่อส่วนบุคคลที่ถือกันในสมัยโบราณเท่านั้น จะเชื่อหรือไม่ก็อยู่ที่วิจารณญาณ