ตระกูลเซี่ย เกี่ยวอะไรกับ เจ้าสัวธนินท์ เปิดตัว เอริค เซี่ย หุ้นใหญ่ Sinovac
เอริค เซี่ย ,Eric Tse กรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่ Sino Biopharmaceutical ได้รับมรดกเป็นหุ้นในบริษัท มูลค่า 3.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากพ่อแม่ของเขา เปิดความสัมพันธ์"ตระกูลเซี่ย" เกี่ยวอะไรกับเจ้าสัวธนินท์เเห่งซีพี
หลังจากที่ทางเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี ออกแถลงการณ์ชี้แจงเมื่อวันที่ 25 พ.ค.2564 ระบุว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสั่งซื้อวัคซีนซิโนเเวค ของรัฐบาล ทั้งทางตรงและทางอ้อม เนื่องจากปัจจุบันปรากฏข่าวสารสับสนเกี่ยวกับวัคซีนซิโนแวค (Sinovac) ทางโลกออนไลน์ โดยระบุว่า (1) ซีพีถือหุ้นซิโนแวค 15% และ (2) ซีพีอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อวัคซีนซิโนแวคของรัฐบาลนั้น เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ขอแจ้งให้ทราบว่า ข้อมูลดังกล่าว ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด โดยมีข้อเท็จจริง ดังนี้
การจัดซื้อวัคซีนซิโนแวค เป็นแบบรัฐบาล ต่อรัฐบาล (G2G) เท่านั้น ไม่มีความเกี่ยวข้องกับซีพี ทั้งทางตรง และทางอ้อม เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้น บริษัทซิโนแวค 15% ตามที่เป็นข่าว โดยข้อเท็จจริง ผู้ลงทุน คือ Sino Biopharmaceutical ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ของจีน จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง โดยเครือเจริญโภคภัณฑ์เป็นเพียงผู้ถือหุ้นรายย่อยในบริษัท Sino Biopharmaceutical นี้ เท่านั้น
ข้อเท็จจริง ผู้ขายหุ้น คือ Sinovac Life Sciences เป็นบริษัทลูกของบริษัท ซิโนแวค ต้องการระดมทุน เพื่อต้องการขยายกำลังการผลิตวัคซีนซิโนแวค
ข้อเท็จจริง Sino Biopharmaceutical เข้าไปถือหุ้นใน Sinovac Life Sciences จำนวน 515 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 15.03% ถือเป็นการดำเนินธุรกิจของบริษัทดังกล่าวเอง โดยเครือเจริญโภคภัณฑ์ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ได้มีหุ้นใด ๆ และไม่ได้มีสิทธิการเป็นเจ้าของ ในบริษัท Sinovac Life Sciences ใด ๆ ทั้งสิ้น
ทั้งนี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นเพียงผู้ถือหุ้นรายย่อยใน Sino Biopharmaceutical ที่เข้าไปลงทุนผ่านทางตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ไม่มีสิทธิในการบริหารและแทรกแซงการตัดสินใจใด ๆ ใน Sinovac และ เครือเจริญโภคภัณฑ์ของยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม กับการสั่งซื้อวัคซีน Sinovac ของรัฐบาล เข้ามาในประเทศไทยอย่างที่เกิดการบิดเบือนในสื่อออนไลน์แต่อย่างใด ทั้งนี้หากพบว่า ยังมีการเจตนานำข้อมูลไปบิดเบือน และ สร้างความเสียหาย ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด เครือเจริญโภคภัณฑ์มีความจำเป็นต้องดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
โดยทางเฟซบุ๊คของ ..สมชาย แซ่จิว ..ได้เปิดเผยว่า เห็น ซีพี ของเจ้าสัวธนินท์ออกแถลงการณ์ ว่า อั๊วไม่เกี่ยวกับการซื้อซิโนแวคของ รบ. อั๊วมีหุ้นอยู่น้อยเดียว อ่ะ ไม่เกี่ยวก็ไม่เกี่ยวแต่พอได้อ่านข้อมูลจากคุณอุ้ยเจ้ก็เลยไปคุ้ยดูประวัติตี๋ฮ่องกงที่ชื่อ เอริค เซี่ย Eric Tse หรือ เซี่ยเฉิงรุ่น ผู้บริหารซิโน-ไบโอฟาร์มาซูติคัลที่ซื้อหุ้นวัคซีนซิโนแวค
อาตี๋เอริคหน้าใสวัย 26
รวยข้ามคืน เพราะพ่อโอนหุ้นให้
ซึ่งก็ไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับเจ้าสัว
ถ้าไม่บังเอิญที่
ป่าป๊าของ เอริค
ชื่ออาเฮีย เซี่ยปิ่ง 谢炳
แล้วอาเฮียเซี่ยปิ่งเนี่ยแกเป็นลูกของ
มหาเศรษฐีเชื้อสายจีนเถ่งไฮ่ ซัวเถา
แต่เกิดในเมืองไทยมีชื่อว่า
เซี่ยเจิ้งหมิน 谢正民
แล้ว ตระกูลเซี่ย เกี่ยวอะไร
กับเจ้าสัวธนินท์
ก็แซ่เซี่ย เป็นสำเนียงจีนกลาง
ออกเสียงแบบแต้จิ๋ว ก็คือ เจี่ย!
และแซ่เจี่ย ก็คือ แซ่ของเจ้าสัวธนินท์
ผู้มีชื่อแซ่ว่า
เจี่ยก๊กมิ้ง (เซี่ยกว๋อหมิน)
谢国民
ซึ่งเจ้าสัวธนินท์ หรือ เจี่ยก๊กมิ้ง
ก็ให้บังเอิญเป็นน้องชายของ
เซี่ยเจิ้งหมิน
ซึ่งเป็นพ่อของเซี่ยปิ่ง
เป็นปู่ของเอริคนั่นเอง
หรือเรียกแบบที่คุณอุ้ยแกว่า
เจ้าสัวธนินท์ของเรา
ก็เป็น อาเหล่าเจ่ก ของ
เอริค แห่ง ซิโน-ไบโอฟาร์มาฯ
นั่นเอง
นอกเหนือจากนี้หากย้อนกลับไปเมื่อ6 ม.ค.64 เว็บไซต์wearecp.com ได้ลงบทความชื่อ "ทำไมคนไทยถึงได้ใช้วัคซีนโควิด-19 ‘CoronaVac’ โดยในตอนท้ายบทความอ้างถึง รายงานข่าวของสำนักข่าว Nikkei Asia ที่รายงานเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2563 ว่า...
บริษัทซิโนไบโอฟาร์มาซูติคอลได้รับเงินลงทุนเพิ่มเติมจากบริษัท CP Pharmaceutical Group จำนวน 515 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 15,000 ล้านบาท) ทำให้สามารถเพิ่มกำลังการผลิตวัคซีน CoronaVac ให้เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า จากเดิม 300 ล้านโดสต่อปี ให้กลายเป็น 600 ล้านโดสต่อปี
ทำความรู้จัก Sino Biopharm บริษัทยายักษ์ใหญ่แห่งโลกตะวันออก
บริษัท Sinovac Biotech อยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัท Sinovac Life Sciences ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท Sino Biopharmaceutical กลุ่มบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ของฮ่องกงที่มีบริการวิจัยและผลิตแบบครบวงจร
โดยบริษัท Sino Biopharmaceutical จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ Hang Seng ของฮ่องกงเมื่อปี 2000 ซึ่งตลอดระยะเวลา 20 ปีของการโลดแล่นในตลาดทุนแห่งนี้ ‘Sino Biopharm’ (ชื่อลำลองของบริษัท) ทำผลงานได้ดีสม่ำเสมอ ประกอบกับเทรนด์สุขภาพและสังคมผู้สูงอายุเป็นปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมให้บริษัทเติบโตจนได้รับการจัดอันดับจากนิตยสาร Forbes ในปี 2005 ให้เป็น 1 ใน Best Under a Billions ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
บริษัท Sino Biopharm ยังได้รับการจัดอันดับต่อเนื่อง โดยในปี 2018 ได้มีชื่อติดเข้ามาอยู่ในทำเนียบ ‘Forbes Global 2000’ หรือทำเนียบรายชื่อบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ที่สุดของโลก และล่าสุดในปี 2019 และปี 2020 บริษัทนี้ติดอับ TOP 50 Global Pharmaceutical Companies ที่จัดอันดับโดยนิตยสาร PharmExec จากสหรัฐอเมริกา
ขอบคุณ
สมชาย แซ่จิว
wearecp.com
ฐานเศรษฐกิจ