ตำรวจงัดหลักฐานจากกล้องคืนเกิดเหตุ ยืนยันไม่ได้ถีบจยย."น้องฟลุ๊ค"
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.พร้อม.ตำรวจสน.ดินเเดง เปิดคลิปจากกล้องบนศีรษะของตร.สายตรวจ เผยเหตุการณ์ขี่จยย.ไล่กวดวัยรุ่นซ้อน3 ยืนยันไม่ได้ถีบ รถน้องฟลุ๊คเเละเพื่อนเบี่ยงมาหาตำรวจเอง ทำให้เกิดอุบัติเหตุล้ม
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 1 มิ.ย. 64 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ปฏิบัติราชการบช.น. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. พล.ต.ต.ปราศรัย จิตตสนธิ ผบก.น.1 พ.ต.อ.รัฐชัย ศรีวิชัยผกก.สน.ดินแดง พ.ต.ท.พีรรัฐ โยมา รองผกก.สส.สน.ดินแดง แถลงข่าวกรณีปรากฏในภาพข่าวและสื่อโซเชียลต่างๆ กรณีเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ขี่จยย.ไล่จับกุมจยย.ซ้อนสาม เป็นเหตุให้มีเหตุจยย.ทั้งสองคันล้ม มีผู้ได้รับบาดเจ็บและ น้องฟลุ๊ค อายุ 13 ปี เสียชีวิตเสียชีวิต ในท้องที่สน.ดินแดง โดยมีการตั้งข้อสงสัยถึงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างมาก (ชมคลิปท้ายข่าว)
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ เปิดเผยว่า กรณีเหตุสน.ดินแดง มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจพบเยาวชนจำนวน 3 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ในเวลากลางคืน และพยายามหลักเลี่ยงจากเจ้าหน้าที่เพื่อทำการตรวจสอบ จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบว่าสาเหตุการณ์เสียชีวิตไม่ได้เกิดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด ทั้งนี้ ยืนยันว่าเจตนาของเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันเพียงต้องการที่จะเรียกตรวจสอบเยาวชนทั้ง 3 คนเท่านั้นว่าเกิดเหตุอะไรขึ้น ไม่ได้มีการถีบจยย.ของผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด และไม่ได้ต้องการให้เกิดเหตุดังกล่าวแต่อย่างใด
การดำเนินการตรวจสอบตำรวจมีอำนาจตามกฎหมายมีขั้นตอนการปฏิบัติ การไล่ติดตามก็มีการทิ้งช่วงระยะเพื่อให้ทำการจอดรถ แต่การขับขี่รถจยย.ทั้งคู่ โอกาสเกิดอุบัติเหตุมีเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว ตนขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียกรณีดังกล่าว
ด้านพ.ต.อ.รัฐชัย กล่าวว่า ภายหลังที่เกิดเหตุแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบเคลียร์พื้นที่บริเวณจุดที่บาดเจ็บมีพบวัตถุต้องสงสัย 3 ชิ้น มีกล่องวัตถุสีฟ้า มีดทำครัว อุปกรณ์ลักษณะคล้ายเสพยาเสพติด อยู่ระหว่างทำการตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม ระหว่างเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิเข้าทำการตรวจสอบ พร้อมกับได้ทำการสอบปากคำผู้อยู่บริเวณที่เกิดเหตุพยานจำนวน 10 ราย ทั้งตำรวจและบุคคลภายนอกไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้านพ.ต.ท.พีรรัฐ กล่าวว่า ฝ่ายสืบสวนสน.ดินแดง ได้ทำการตรวจสอบกรณีดังกล่าวพบว่า รถจยย.ของเด็ก 3 คนได้ขับขี่มาจากถนนมิตรไมตรี และเลี้ยวซ้ายของถนนวิภาวดี เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจไล่ติดตามตั้งแต่บริเวณหน้าโรงกรองน้ำ โดยระยะทางที่ไล่ติดตามประมาณ 1.8 กิโลเมตร เมื่อเริ่มไล่รถของสายตรวจได้เข้าไปใกล้ชิดกับรถจยย.ต้องสงสัย ครั้งที่ 1 คือบริเวณหน้าโรงแรมปริ้นตัน ได้เรียกขอให้หยุดจอด แต่รถต้องสงสัยเร่งเครื่องหลบหนี และก็เรียกอีกครั้งหนึ่งใกล้สวนป่าถนนวิภาวดี แต่ก็มีการเร่งเครื่องหลบหนีเป็นครั้งที่ 2
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งติดตามไปเป็นครั้งที่ 3 เรียกให้หยุดเพื่อทำการตรวจสอบ จากภาพของกล้องBody Camera สายตรวจจะเห็นว่ารถจยย.ต้องสงสัยด้านท้ายรถด้านขวาเบี่ยงมาทางขวา จึงทำให้กระแทกกับหน้ารถจยย.ของสายตรวจทำให้รถจยย.สายตรวจเสียหลักล้มลงก่อน ต่อมารถจยย.ต้องสงสัยก็เสียหลักจากการกระแทกดังกล่าวเสียหลักพุ่งไปทางด้านซ้ายชนขอบทางล้มลงทำให้เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต