ผบช.น. สั่ง 3 นายตำรวจออกจากราชการ เซ่นพัวพันอุ้มนักธุรกิจไต้หวัน
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงศ์เภตรา ผบช.น. สั่ง 3 นายตำรวจออกจากราชการ เซ่นพัวพันอุ้มนักธุรกิจชาวไต้หวัน ไปจากร้านอาหารแห่งหนึ่งในพื้นที่ สน.ทองหล่อ ก่อนนำตัวไปเรียกค่าไถ่
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงศ์เภตรา เปิดเผยความคืบหน้า สั่งออกจากราชการ จากกรณี 3 นายตำรวจพัวพันแก๊งชาวต่างชาติ อุ้มนักธุรกิจชาวไต้หวัน ไปจากร้านอาหารแห่งหนึ่งในพื้นที่ สน.ทองหล่อ ก่อนนำตัวไปเรียกค่าไถ่ ซึ่งจากการสอบสวนพบว่ามีทั้งคนร้ายที่เป็นชาวต่างชาติ และคนไทย ร่วมกันข่มขู่กรรโชกทรัพย์ด้วยนั้น
ล่าสุด พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงศ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า คดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ สน.ทองหล่อ คนร้ายชาวต่างชาติและคนไทยร่วมกันข่มขู่กรรโชกทรัพย์จากผู้เสียหาย กระทั่งตำรวจกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้เข้าจับกุมดำเนินคดี
เบื้องต้นจากการตรวจสอบ พบว่า มีผู้กระทำความผิดทั้งหมด 16 คน พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ได้ขอศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 16 คน เป็นชาวต่างชาติ 6 คน, คนไทย 10 คน
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ เปิดเผยอีกว่า ภายหลังออกหมายจับได้แล้ว ชุดสืบสวน สน.ทองหล่อ ได้ติดตามไปจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 9 คน เป็นชาวต่างชาติ 2 คน และคนไทย 7คน โดยในจำนวนนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 นาย สังกัดกองบังคับการตำรวจจราจร จึงให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรง และให้ข้าราชการตำรวจทั้ง 3 นายออกจากราชการไว้ก่อน ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือตำรวจอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมเพิ่มเติม ขณะนี้มีข้อมูลว่ายังคงหลบหนีอยู่ในพื้นที่่กองบัญชาการตำรวจนครบาล แต่บางส่วนได้ออกนอกพื้นที่ไปแล้ว
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลการสืบสวนสอบสวนพบว่า คนร้ายแก๊งนี้ยังมีการก่อเหตุในลักษณะเดียวกันในพื้นที่สน. ลุมพินี โดยเป็นชาวบังคลาเทศร่วมกับคนไทยรวม 6 คน จึงได้ให้พนักงานสอบสวนไปขอศาลออกหมายจับได้ครบทุกคนแล้ว และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้วบางส่วนแล้ว
อย่างไรก็ตาม จาการสอบสวนพบว่ามูลเหตุในการขู่กรรโชกทรัพย์ครั้งนี้ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ ระบุว่า เกิดจากปัญหาติดหนี้สินและค้างค่าถุงมือยางทางการแพทย์ซึ่งผู้ต้องหาแก๊งดังกล่าวได้รับการว่าจ้างจากชาวต่างชาติมาอีกทอดหนึ่ง ทั้งนี้ยืนยันว่าคดีดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นผู้ต้องหาชาวไทยหรือต่างชาติหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดไม่มีการละเว้น
สำหรับรายชื่อตำรวจที่ถูกดำเนินคดี คือ ส.ต.ท.ยุทธสาน ยิงรัมย์ และส.ต.ท.ศตวรรษ พ่วงสูงเนิน