จากปากทนายตั้ม คดีน้องชมพู่ชิลๆไม่หนักใจ พร้อมพาลุงพลมอบตัว สู้คดีวันนี้
จากกรณีเมื่อวันที่ 1 มิย. ที่ผ่านมาศาลจังหวัดมุกดาหาร อนุมัติหมายจับนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล 3 ข้อหา คือพรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันควร, ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกินเก้าปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน
โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย, และกระทำการใดๆแก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป มีรายงานว่า สำหรับหลักฐานในการออกหมายจับครั้งนี้คือหลักฐานบริเวณจุดพบศพ ได้แก่ กางเกง รองเท้า เส้นขนจำนวน 3 เส้น ที่ตรวจดีเอ็นเอจนสามารถระบุได้แล้วว่าเป็นของใคร รวมถึงเส้นผมน้องชมพู่ที่ถูกสับ 36 เส้น และคำให้การของพยานแวดล้อมทั้งหมด และผลการตรวจพิสูจน์หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ที่ชี้ชัดว่ามีความเชื่อมโยงกับลุงพล
เมื่อเวลาประมาณ 08.30 น. ของวันที่ 2 มิถุนายน 2564 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เดินทางมาทำธุระเรื่องคดีในความรับผิดชอบคดีอื่นไม่เกี่ยวกับลุงพล ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร จึงได้มีการสอบถามในเบื้องต้นเกี่ยวกับคดีลุงพลและหลักฐานที่ตำรวจพบ จนนำไปสู่การออกหมายจับลุงพลนั้น ทางทนายตั้มได้บอกเพียงแค่ว่า วันนี้ตนเองมาติดต่อเรื่องคดีให้ลูกความ ซึ่งในส่วนของคดีลุงพลนั้นตนขอแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนพร้อมกันในเวลา 10.00 น. ของวันนี้
ส่วนตัวแล้วคดีของนายไชย์พล ไม่มีอะไรต้องหนักใจในหลักฐานที่ตำรวจแจ้งว่าพบในที่เกิดเหตุ ด้านนายไชย์พลก็เช่นเดียวกัน ไม่ได้หนักใจอะไร และหลังจากนี้ก็จะเดินทางไป จ.มุกดาหารเพื่อไปจัดการเรื่องคดีของนายไชย์พลตามที่ได้รับเป็นทนายความ นอกจากนี้ทนายตั้มจะพานายไชย์พลไปมอบตัวกับ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ด้วยตนเอง