ศาลจังหวัดมุกดาหาร มีคำสั่งให้ประกันตัว"ลุงพล"
เเฟนคลับได้เฮ อัพเดตล่าสุด ศาลจังหวัดมุกดาหารมีคำสั่งให้ประกันตัวลุงพล หรือนายไชย์พล วิภา โดยวางหลักทรัพย์ 180,000 บาท ออกข้อกำหนดหากไม่ปฎิบัติตามจะถูกเพิกถอนการประกันตัว
4มิ.ย.64 ความคืบหน้าล่าสุดในการยื่นขอประกันตัวลุงพล ทางเพจของทนายตั้ม คือ ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้เผยว่าศาลจังหวัดมุกดาหารมีคำสั่งให้ประกันตัวลุงพล วางหลักทรัพย์ 180,000 บาท ออกข้อกำหนดหากไม่ปฎิบัติตามจะถูกเพิกถอนการประกันตัว
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทนายตั้ม ทนายความของนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล ผู้ต้องหาคดีการตายของน้องชมพู่ เดินทางมาที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร เพื่อยื่นขอประกันตัวลุงพล โดยมีหลักทรัพย์เงินสด 5 แสนบาท โฉนดที่ดินประมาณ 1 ล้าน 7 แสนบาท ซึ่งเป็นของกลุ่มแฟนคลับ เมื่อตำรวจยื่นฝากขังลุงพล ทางทนายจะขอยื่นประกันตัวทันที ที่รู้เลขฝากขัง ซึ่งลำดับต่อไปต้องรอดูว่าศาลจะพิจารณาอย่างไร ส่วนตัวได้เตรียมเอกสารมาประกอบการยื่นขอประกันตัวเรียบร้อยแล้ว พร้อมให้ลุงพลเซ็นกำกับตั้งแต่ที่ สภ.กกตูมแล้ว
ทนายตั้ม กล่าวว่า ไม่ขอตอบว่ามั่นใจหรือไม่ เพราะเดี๋ยวจะถูกหลายคนมองว่าน่าหมั่นไส้อยากให้รอฟังผลของศาลไปพร้อมๆกัน ประเด็นสำคัญที่เสนอในวันนี้คือ ที่ผ่านมาลุงพลไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมาโดยตลอด มีที่อยู่แน่นอนมั่นคงซึ่งยืนยันได้จากยูทูบเบอร์ที่ถ่ายทอดสดตลอด
นอกจากนี้ถ้าศาลมีคำสั่งให้ใส่กำไลอิเล็กทรอนิกส์ทางลุงพลก็ยินดี เพียงแต่ขอโอกาสต่อสู้เพื่ออิสรภาพข้างนอก และเชื่อว่าเจ้าที่ตำรวจเองรวบรวมพยานหลักฐานเรียบร้อยหมดแล้วลุงพลไม่สามารถเข้าไปยุ่งได้
ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดหลักฐานเรื่องของดีเอ็นเอที่ระบุว่าเป็นตัวลุงพล ต่อมาทนายได้มีการแย้งและเจ้าหน้าที่แจ้งว่าเป็นของนางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ "ป้าแต๋น" ทนายกล่าวว่าเจ้าหน้าที่ไปเอาอะไรมาพิสูจน์เพราะการตรวจดีเอ็นเอไม่มีรากผม ทางตำรวจจึงต้องตอบข้อนี้ให้ได้
เบื้องต้นที่ก่อนหน้านี้มีการประสานนายสิระ เจนจาคะ ในฐานะคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎรให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง จะเข้าไปพบในวันอังคารที่จะถึงนี้
โดยคำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 63 ช่วงเวลา 9.00-9.45 น.ผู้ต้องหาได้พาตัวเด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพูวงศ์ศรีชาอายุ 3 ปี2เดือนซึ่งเป็นลูกสาวของนางสาวิตรี วงศ์ศรีชา มารดาและนายอนามัย วงศ์ศรีชาบิดาไปในขณะเล่นอยู่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 73หมู่ 2 ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ. มุกดาหารของตนติดกับบ้านเลขที่ 73 หมู่ 2ต.กกตูม อ. ดงหลวงจ. มุกดาหาร โดยปราศจากเหตุอันสมควรจากนั้นได้นำตัวเด็กหญิงอรวรรณหรือน้องชมพู่ ไปซุกซ่อนและทอดทิ้งไว้ที่บริเวณป่าท้ายหมู่บ้านอยู่ทางทิศเหนือของหมู่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวงจ.มุกดาหารทางขึ้นเขาภูเหล็กไฟเพียงลำพังโดยปราศจากผู้ดูแล แล้วไปทำธุระรับส่งพระหลังเกิดเหตุชาวบ้านได้ช่วยกันออกติดตามหาตัวเด็กหญิงอรวรรณหรือน้องชมพู่ แต่ไม่พบตัวภายหลังเมื่อผู้ต้องหาเสร็จธุระส่งพระจึงย้อนกลับมานำตัวเด็กหญิงอรวรรณหรือน้องชมพู่
ซึ่งยังไม่เสียชีวิตและพยายามเดินหาทางกลับบ้านขึ้นไปซุกซ่อนและปล่อยทอดทิ้งไว้บนเขาภูเหล็กไฟเพียงลำพังอีกครั้งให้พ้นไปเสียจากตนโดยปราศจากผู้ดูแลเป็นเหตุให้เด็กหญิงอรวรรณซึ่งไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้เพราะเป็นเด็กมีอายุเพียง 3ปี2เดือนไม่สามารถออกจากบริเวณเขาภูเหล็กไฟที่ถูกปล่อยทอดทิ้งไว้ได้จนกระทั่งหมดแรงและเสียชีวิตบนเขาภูเหล็กไฟในเวลาต่อมาจากนั้นผู้ต้องหาได้เข้าไปกระทำการแก่ศพของเด็กหญิงอรวรรณฯ และสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพโดยถอดเสื้อผ้าจัดท่าทางของศพเพื่อให้เข้าใจว่ามีการประทุษร้ายทางเพศต่อเด็กหญิงอรวรรณ และใช้ของแข็งมีคมตัดสับฟันไปที่เส้นผมของเด็กหญิงอรวรรณ เพื่อนำไปประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อทางไสยศาสตร์อันเป็นการกระทำการแก่ศพและสภาพแวดล้อมบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้นในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไปโดยได้พบศพเด็กหญิงอรวรรณฯ นอนเสียชีวิตอยู่บนเขาภูเหล็กไฟชั้นที่ 5 ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือของหมู่บ้านกกกอกไปประมาณ 1.3กิโลเมตรในวันที่ 14 พ.ค.63 เวลาประมาณ 19.00 น. ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดมุกดาหารลงวันที่ 1 มิ.ย.64 นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาและพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดให้ผู้ต้องหาทราบในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 306มาตรา 308และมาตรา 317และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 150ทวิมีอายุความดำเนินคดี 15ปี
โดยพนักงานสอบสวนได้รับตัวผู้ต้องหาไว้ดำเนินคดีเมื่อวันที่ 2 มิ.ย.64 เวลา 16.33 น. ซึ่งได้ทำการสอบสวนและควบคุมตัวผู้ต้องหามาโดยตลอดจะครบ 48 ชั่วโมงในวันที่ 4 มิ.ย.เวลา16.33 น.หาก แต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้นเนื่องจากต้องทำการสอบสวนพยานเพิ่มเติมในคดีอีก 15ปากรอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหาด้วยความจำเป็นดังกล่าวจึงขออนุญาตฝากขังผู้ต้องหาครั้งเเรกเป็นเวลา 12วัน เนื่องจากคดีนี้มีอัตราโทษสูงหากปล่อยตัวไปเกรงผู้ต้องหาจะหลบหนีและไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือก่อเหตุร้ายประการอื่นจึงขอคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา
พนักงานสอบสวนมีความประสงค์ขอดำเนินการยื่นคำร้องฝากขังโดยขอให้ศาลสอบถามผู้ต้องหาหรือทำการไต่สวนพยานหลักฐานในการออกหมายขังผู้ต้องหาผ่านระบบการประชุมทางจอภาพในการฝากขังครั้งต่อ ๆ ไปทุกครั้ง
ขอบคุณภาพ
แสวง รูปดี nationtv22