เปิดประวัติ สุรภักดิ์ ภูไชยแสง คนขับ Z4 ถีบตัวเองจากเด็กบ้านนอก
เปิดประวัติ สุรภักดิ์ ภูไชยแสง คนขับ BMW Z4 ชนที่เขาค้อ จากเด็กบ้านนอกสู่นักโปรแกรมเมอร์ กับชีวิตหลากหลายด้านทั้งเพลย์บอย สายเปย์พริตตี้ และนักเคลื่อนไหวทางการเมืองอุดมการณ์สูง จนเคยโดนคดี ม.112
จากกรณีรถสปอร์ตเปิดประทุน BMW รุ่น z4 ทะเบียน 3 กก 7558 กรุงเทพมหานคร ชนกับรถยนต์ ยี่ห้อซูซูกิ รุ่นสวิฟต์ ทะเบียน 1ขฐ 9316 กรุงเทพมหานคร เหตุเกิดบนทางหลวงหมายเลข 21 สายสระบุรี-หล่มสัก บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 180-181 หมู่ 7 ต.ห้วยโป่ง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ฝั่งขาเข้าเพชรบูรณ์ เหตุเกิดช่วงบ่ายวันที่ 13 มิถุนายน เป็นเหตุให้ นายสุรภักดิ์ ภูไชยแสง อายุ 50 ปี ชาว จ.บึงกาฬ หรือ "ตุ้ม" ซึ่งเป็นคนขับเสียชีวิตส่วน น้องเมษสวรรค์ วัย 18 ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้ายหักผิดรูป รอการผ่าตัด ส่วนคนขับรถซูซูกิ เสียชีวิตทั้งคู่ ตามที่นำเสนอข่าวไปนั้น
สำหรับนายสุรภักดิ์ ภูไชยแสง คนขับ BMW Z4 หลังเกิดเหตุก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ จากชาวเน็ตบนโลกออนไลน์ จนทางครอบครัวของนายสุรภักดิ์ ต้องออกมาวอนขอสังคมว่าอย่างพึ่งตัดสินขอให้รอข้อสรุปจากเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน โดยทางเรื่องเล่าเช้านี้ ได้ออกมารายงานประวัติของ นายสุรภักดิ์ จากการสัมภาษณ์ นายภูริทัต ภูไชยแสง พี่ชายนายสุรภักดิ์ ว่า ครอบครัวตนรับราชการหมด มีนายสุรภักดิ์ที่เป็นฟรีแลนซ์และเป็นโปรแกรมเมอร์ เปิดบริษัทเป็นของตัวเอง เขาเป็นเด็กบ้านนอกที่ดิ้นรนเข้ากรุงเทพฯ ด้วยตัวเอง ต่อสู้เรียนจนจบจนมีงานทำในช่วงชีวิตหนึ่ง นายภูริทัต เข้าร่วมในกลุ่มของคนเสื้อแดง และได้พาผู้เป็นแม่ คือ นางแต้ม ภูไชยแสง อายุ 77 ปี ไปร่วมเดินขบวนด้วยบางครั้ง เพราะเป็นคนมีอุดมการณ์สูง จนถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดในมาตรา 112 เมื่อปี 2553 แต่เจ้าตัวก็ต่อสู้ความจริงเรื่อยมาว่าถูกกล่าวหาใส่ร้าย ก่อนที่ศาลจะตัดสินยกฟ้องทั้ง 3 ศาล จากนั้นได้รับการอภัยโทษให้ ทำให้ติดคุกอยู่ 18 เดือน
หลังพ้นโทษ นายสุรภักดิ์ก็กลับมาทำมาหากิน เพราะทรัพย์สินทุกอย่างถูกเจ้าหน้าที่ยึดไปหมด เขากลับมาทำอาชีพที่ถนัด คือ เป็นโปรแกรมเมอร์ สร้างฐานะตัวเองเรื่อยมาจนมีเงินพอกินพอใช้ ซึ่งก็มีความตั้งใจว่าประมาณเดือนตุลาคม 2564 จะสร้างบ้านหลังใหม่ให้แม่ที่บึงกาฬ เพราะตอนนี้แม่อยู่กับพี่สาวที่เป็นพยาบาล เป็นบ้านมรดกเก่าแก่ 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ ซึ่งได้ดูบ้านพร้อมกับเตรียมแปลนบ้านแล้วแต่มาเสียชีวิตเสียก่อน
ทั้งนี้ นายสุรภักดิ์ หันมาเป็นโปรแกรมเมอร์ทำงานให้หน่วยงานรัฐและเอกชน ซึ่งชีวิตอีกด้านคือ เป็นคนที่ชอบพริตตี้ และเป็นชายโสด แต่ถึงกระนั้นนายสุรภักดิ์ก็ยังเคลื่อนไหวทางการเมืองบ้างเมื่อมีโอกาส โดยส่วนมากจะสนับสนุนเงินทุนในการตามหาผู้ลี้ภัยทางการเมืองสำหรับคนที่ถูกอุ้มหาย เช่น สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ ที่ช่วยสนับสนุนจนพบหลักฐานที่ทำให้รู้ว่านายสุรชัยถูกอุ้มหายที่บ้านท่าจำปา นครพนม