ส่อคดีพลิก ชาวเน็ตจี้ถาม แม่ค้าน้ำส้ม หลังบอกโดนเรียกเงิน 12000
กลายเป็นประเด็นร้อนไปทั่วโลกออนไลน์ หลังเจ้าหน้าที่กรรมสรรพาสามิต สวมรอยอ้างเป็นลูกค้าล่อซื้อน้ำส้ม 500 ขวดจากแม่ค้า ก่อนถามหาใบอนุญาตขายพร้อมเรียกเงิน 12,000 บาท
เรียกได้ว่ากำลังเป็นประเด็นร้อนที่มีผู้คนให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมาก สำหรับกรณีข่าวของเจ้าของร้านน้ำส้ม ที่โดนเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตล่อซื้อน้ำส้มจำนวน 500 ขวด ก่อนโดนถามหาใบอนุญาตขาย พร้อมกับเรียกเงินจำนวน 12000 บาท ทำเอาชาวเน็ตเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากมาย
เมื่อวานมีออเดอร์น้ำส้ม 500 ขวด ‼️ เราดีใจแทบตาย มารับที่ร้าน จ่ายเงินสด เป็นใครก่อดีใจเศรษฐกิจแบบนี้ เร่งกันแทบตาย จ้างคนทั้งทำเช้า ทำเย็น พอใกล้ถึงเวลานัด มี ลูกค้าเข้ามา ทานสเต็กที่ร้าน สักพักก่อขอเข้าไปข้างใน ดูว่าเรามีขายอะไรบ้างน้ำอะไร เข้าไปห้องทำน้ำ ตามหาน้ำส้ม 500 ขวด สักพัก ถามหาใบอนุญาต ขายน้ำ เราก่องง เราไม่ได้เป็นโรงงาน ต้องใช้หรา แต่เราก้อไม่ได้อะไร เลยให้น้องที่ร้านถามว่าขออนุญาติทำยังงัย เค้าก้อนับน้ำในร้าน ว่ามีเท่าไหร่ จะต้องมีค่าปรับ ค่าใช้จ่าย สุดท้าย มา 5 คน จบที่ 12000 เรา ก้อยังรอลูกค้าที่สั่งมารับอยู่ สุดท้ายและท้ายสุด บล๊อคเพจไปเรียบร้อย เค้าคือพวกเดียวกัน ไปดูเฟส มีรูปหมู่ครบทั้งคนสั่ง คนมา…เข้าใจความรู้สึกเหมือนในข่าว
#คนทำมากินทำนาบนหลังคนแบบนี้หรา
#พวกคุณได้12000ชีวิตครอบครัวคุณอยู่ได้ตลอดชีวิตใช่มั้ย
#ทำไมพวกคุณเกิดมาเสียชาติเกิด
#เคยได้มั้ยชั้นดิ้นจนแผลถลอกแต่พวกคุณจนตรอกแต่กับอยู่กับที่
#จิตใจพวกคุณทำด้วยอะไร
#บทเรียนราคาแพงของเรา
ต่อมาทางด้าน นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต ได้ออกมาแถลงข่าวว่า ตอนนี้ได้สั่งย้ายเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 คนไปแล้ว ซึ่งได้ให้ย้ายไปอยู่นอกพื้นที่กรุงเทพ และกำลังตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้กระจ่าง พร้อมกับว่าทางกรมสรรพสามิตไม่ได้มีการสั่งให้กระทำการดังกล่าวแต่อย่างใด ส่วนเรื่องเรียกเก็บเงิน 12000 บาทไม่ใช่เรื่องจริง
ล่าสุดทางด้าน แม่ค้าสาวรายดังกล่าวออกมาโพสต์ข้อความเอาไว้ว่า สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อวานนี้นะค่ะ โทรไปถามที่กรมสรรพสามิตมาแล้วนะค่ะ ไม่ต้องมีใบอนุญาติ ได้ค่ะ เนื่องจากเราไม่ได้ ตั้งเป็นโรงงานขนาดใหญ่ขายของเล็กๆปกติค่ะ ขอบคุณทุกออเดอร์ที่ให้ความช่วยเหลือขอบคุณสื่อทุกสื่อ ที่ติดต่อนะค่ะ แต่เราไม่สะดวก จริงๆ ที่โพสต์ลงไปเพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนตัวเองและแม่ค้าด้วยกันไม่ได้มีเจตนาอื่นใดใดทั้งสิ้น ใครทำอะไรไว้ขอให้ได้รับผลกรรมนั้นนะค่ะ
ซึ่งงานนี้ทำเอาเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักส่อคดีพลิกเมื่อทางด้านชาวเน็ตต่างเข้ามาจี้ถาม แม่ค้าสาวรายดังกล่าวว่าคล้ายกับหนังคนละม้วน เพราะทั้งคู่พูดไม่ตรงกันอีกทั้งยังดูเหมือนว่าทางด้านแม่ค้าสาวไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆกับสื่อ คล้ายว่ากำลังปิดบังอะไรอยู่