ครอบครัวเหยื่อ BMW ไม่สนเงินช่วยเหลือ จ่อฟ้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

จากกรณีอุบัติเหตุเศร้า นายสุรภักดิ์ ภูไชยแสง อายุ 50 ปี ขับรถ BMW Z4 ซิ่งฝ่าสายฝนก่อนเสียหลักพุ่งข้ามเกาะกลางถนนประสานงากับรถเก๋งซูซูกิ สวิฟต์ บริเวณถนนสระบุรี - หล่มสัก ต.ห้วยโป่ง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย คือ น.ส.กรกฏ หิรัญ อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นคนขับเก๋งสวิฟต์ และ น.ส.วรรณกานต์ วรรณกายนต์ อายุ 29 ปี ก่อนที่นายสุรภักดิ์ เสี่ยผู้ขับ BMW จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนี้มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย คือ นางสาวเมษสวรรค์ แทนรัตน์ อายุ 18 ปี ที่นั่งมาคันเดียวกับเสี่ย BMW 

 

ความคืบหน้าล่าสุดทางฝั่งพ่อและแม่ของ น.ส.กรกฏ ได้ออกมาเปิดใจอีกครั้งว่า ถ้าหากทางครอบครัวของนายสุรภักดิ์จะมีการขอเลขบัญชีตน เพื่อที่จะโอนมาช่วยเหลือ ตนจะไม่ให้เลขบัญชีไป พร้อมกับบอกว่าจะไม่ขอรับเงินสักบาทเดียว เป็นไปได้อยากจะได้ชีวิตลูกคืนกลับคืนมา แต่ถ้าฝั่งนู่นจะช่วยเหลือจริงขอปล่อยให้ทางอาของ น.ส.กรกฏ จัดการเองทุกอย่าง เพราะอาเป็นทนายความ และถ้าหากว่าทางครอบครัวของนายสุรภักดิ์จะเดินทางมาร่วมงานด้วยตนก็ไม่ว่าอะไร เพราะถือว่ามาร่วมงานส่งลูกสาวตน

ขณะที่ นายจักรกฤษณ์ เอ่งฉ้วน เผยว่าตนเป็นญาติของ น.ส.กรกฏ ซึ่งตอนนี้มีหน้าที่ดูแลเรื่องทุกอย่างของคดีกล่าวนี้ แนวทางต่อไปจะทำตามไปทางเรื่องกฎหมาย ส่วนในเรื่องของการเรียกค่าเสียหายต่างๆ ต้องดูว่าทางครอบครัวจะเดินหน้าต่อไปได้อย่างไรได้บ้าง เพราะทาง น.ส.กรกฏ เป็นลูกสาวคนเดียวของครอบครัว แต่ก็ต้องดูในเรื่องค่าเสียหายและองค์ประกอบต่าง ๆ ของทางชั้นศาลด้วย

แต่ทั้งนี้ ต้องดูว่าเสี่ย BMW มีทรัพย์สินอะไรทิ้งไว้บ้างกับทายาทบ้าง ไม่ว่าจะเป็นที่ดิน หรือเงินสดในบัญชี หรืออะไรต่างๆที่เป็นทรัพย์สินตกทอด ในส่วนตรงนั้นสามารถที่จะฟ้องทายาทได้ ซึ่งทางพ่อกับแม่ของ น.ส.กรกฏ ไม่ได้มีการติดใจในเรื่องของเงินเลย แต่ถ้าเป็นไปตามกฎหมายก็คือแน่นอนว่าคู่กรณีจะต้องช่วยเหลือครอบครัวทาง น.ส.กรกฏ บ้าง โดยหลังจากเสร็จงานของ น.ส.กรกฏ ก็จะดำเนินการไกล่เกลี่ย ถ้าไกล่เกลี่ยอะไรไม่ได้ก็จะขึ้นสู่ในชั้นศาลต่อไป ในทางศาลฟ้องร้อง บังคับคดีกันต่อไป

ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าว