ภาพล่าสุด 4 แม่เฒ่า อยากซื้อบ้านคืน แต่เจ้าหนี้ขอ 2 ล้าน ทยอยเก็บของแล้ว
4 แม่เฒ่า ถูกเจ้าหนี้เตรียมยึดบ้านไล่ให้ออกจากบ้านและที่ดินที่เคยอยู่มาตั้งแต่เล็กจนโต เนื่องจากหลานเคยเอาโฉนดไปใช้กู้เงินเพื่อไปทำงานไต้หวัน แต่เมื่อไปถึงกลับพบว่าถูกหลอก จนไม่มีเงินกลับมาใช้หนี้
จากกรณีพี่น้อง 4 แม่เฒ่า อายุตั้งแต่ 77-94 ปี ชาว ต.สามเรือน อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ถูกเจ้าหนี้เตรียมยึดบ้านไล่ให้ออกจากบ้านและที่ดินที่เคยอยู่มาตั้งแต่เล็กจนโต เนื่องจากหลานเคยเอาโฉนดไปใช้กู้เงินเพื่อไปทำงานไต้หวัน แต่เมื่อไปถึงกลับพบว่าถูกหลอก จนไม่มีเงินกลับมาใช้หนี้
ต่อมา นายกิตตินพ สุวรรณโรจน์ ทนายความที่ดูแลคดี กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าวศาลได้ไกล่เกลี่ยพูดคุยกันทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายโจทก์และฝ่ายจำเลย โดยที่โจทก์ยินดีที่จะให้จำเลยขยายระยะเวลาออกไปได้ 30 วัน เพื่อที่จะได้ขนย้ายทรัพย์สินออกจากที่พิพาท ซึ่งจะครบกำหนดในเวลา 09.00 น.ของวันที่ 16 กรกฏาคม 2564 ที่จะถึงนี้
โดยจำเลยมีหน้าที่จะต้องมาแถลงให้ศาลทราบเมื่อถึงเวลานั้นว่าได้ขนย้ายทรัพย์สินออกจากที่พิพาทเรียบร้อยแล้ว นอกจากนั้นการพูดคุยเจรจาทางโจทก์ยังได้แจ้งว่าไม่ประสงค์จะขายทรัพย์ซึ่งลูกหนี้เข้าใจในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ต้องหาพื้นที่ใหม่ที่จะต้องออกไปอยู่พักอาศัยตามระยะเวลาที่ได้ขยายภายใน 30 วันตามที่ศาลให้ความกรุณา
ล่าสุด นายปรีชา สุทนต์ นายอำเภอศรีสำโรง เปิดเผยว่า ตลอดเวลาเกือบ 20 ปี เจ้าหนี้ดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายอย่างถูกต้องมาโดยตลอด และไกล่เกลี่ยทุกครั้ง ทางเจ้าหนี้ก็ให้ความร่วมมือ จนล่าสุดยืดเวลาให้ 4 แม่เฒ่าอยู่บ้านเดิมได้อีก 30 วัน และต้องขนของออกจากพื้นที่ภายในเวลา 09.00 น. วันที่ 16 กรกฎาคม 2564
ทั้งนี้ ทางด้าน 4 แม่เฒ่า ยังมีความหวังให้เจ้าหนี้ยอมขายบ้านและที่ดินคืนให้ แต่ก็ทยอยเก็บข้าวของไปฝากไว้ที่บ้านเช่าแล้ว และมองหาบ้านใหม่ที่จะซื้อ เป็นบ้านเดี่ยว 1 ชั้น ห่างจากบ้านเดิมราว 5.6 กิโลเมตร