ลมเปลี่ยนทิศ ขยายพื้นที่เสี่ยง 10 กม.รอบ"โรงงานกิ่งแก้ว"ที่เกิดเพลิงไหม้
ประกาศขยายรัศมีพื้นที่เสี่ยงภัย จาก 5 กิโลเมตรเป็น 10 กิโลเมตรรอบ โรงงานกิ่งเเก้ว จากสาเหตุจากกระแสลมเปลี่ยนทิศทาง หวั่นสารเคมี มุ่งหน้าเข้าพื้นที่กทม. ไปยังย่าน ถนนศรีนครินทร์ อ่อนนุช ลาดกระบัง บางกะปิ
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยความคืบหน้า ไฟไหม้โรงงานกิ่งแก้ว หลังจากที่นักบินและกำลังพลของกองทัพบกได้ร่วมกับ ปภ. นำเฮลิคอปเตอร์ KA-32 จำนวน 2 ลำ ขึ้นบินเทโฟมดับเพลิง จากการประเมินสถานการณ์ของทีมภาคพื้นดินพบว่าการลุกไหม้ลดลง แต่ยังมีบางส่วนกลับมาปะทุไหม้ จึงได้ประสานจังหวัดสมุทรปราการนำทีมปฏิบัติการภาคพื้นดินสนธิกำลังเข้าปฏิบัติการดับไฟ ทั้งหน่วยดับเพลิงของกทม. และหน่วยงานต่าง ๆ ภายใต้การแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ
อย่างไรก็ตาม กำลังพลของ ทบ. ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤตของ ปภ. เฮลิคอปเตอร์ KA-32 ทั้ง 2 ลำ จะยังคง stand by ประเมินการปฏิบัติการทางอากาศและทางภาคพื้นดินสลับกันไปตามสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม ปภ. ได้สั่งการให้ศูนย์ ปภ. เขตใกล้เคียงนำรถไฟฟ้าส่องสว่างเข้าสนับสนุนการทำงานในภาคกลางคืนแล้ว
ด้านนายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานความคืบหน้า เบื้องต้นยืนยันว่า เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว 1 บ่อ แต่ยังมีอีก 1 บ่อที่จะต้องใช้อากาศยานเข้าไประงับเหตุ ก่อนจะใช้ทีมภาคพื้นดินเข้าตามไป หากว่าเป็นไปตามแผน คาดจะสามารถทำให้เพลิงสงบได้ในระยะเวลาไม่นานนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้โฟมผสมน้ำในการรักษาอุณหภูมิจุดที่เกิดเพลิงไหม้ และระดมทีมกู้ภัยจากหลายหน่วยงาน
สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์เพลิงไหม้โรงงานสมุทรปราการสามารถเข้าศูนย์พักพิงชั่วคราวได้ตามสถานที่ด้านล่าง
หรือติดต่อประสานงานหมายเลข 065-9513465