ทำเนียบวุ่น พบจนท.ติดโควิด เล็งจำกัดจำนวนสื่อเข้าออก
รายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล ซึ่งปฎิบัติหน้าที่ประจำประตู 5 ตรงข้ามกระทรวงศึกษาธิการ เป็นช่องทางเข้า-ออกหลัก สำหรับผู้ที่จะเข้ามาติดต่อราชการ ติดเชื้อโควิด-19 อีก 1 คน และได้เข้ารับการรักษาตามขั้นตอนแล้ว
วันนี้ (8 ก.ค.2564) นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของทำเนียบรัฐบาลล่าสุด หลังพบยอดผู้ติดเชื้อ และ ผู้เสียชีวิตสูงสุดนับแต่มีการระบาดว่า ปัจจุบันทำเนียบรัฐบาลได้ใช้มาตรการอย่างเข้มข้น ตามมาตรฐานสากล และ กระทรวงสาธารณสุขอยู่แล้ว โดยข้าราชการส่วนใหญ่ขณะนี้ก็ทำงานที่บ้าน ทุกคนและทุกหน่วยงานในสังกัด สามารถปรับตัวทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งตามดำริของนายกรัฐมนตรี และ ผู้บังคับบัญชาระดับสูงทุกคน ได้สั่งให้ดูแลผู้ปฏิบัติงานอย่างดี ตรวจหาเชื้อต่อเนื่อง รวมทั้งจัดให้ฉีดวัคซีนตามกำหนด จึงไม่จำเป็นปรับมาตรการเพิ่มเติม สำหรับสื่อมวลชนที่ปฎิบัติงานในทำเนียบรัฐบาล ยังไม่ออกมาตรการเพิ่มเติม จากเดิมที่จำกัดจำนวนอยู่แล้ว ซึ่งสำนักโฆษก สำนักเลขาธินายกรัฐมนตรี ได้จัดระบบการสื่อสารไว้รองรับและอำนวยความสะดวกทุกช่องทางอยู่แล้ว ทั้งเว็บไซต์ และการติดต่อสื่อสารผ่านทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล ซึ่งปฎิบัติหน้าที่ประจำประตู 5 ตรงข้ามกระทรวงศึกษาธิการ เป็นช่องทางเข้า-ออกหลัก สำหรับผู้ที่จะเข้ามาติดต่อราชการ ติดเชื้อโควิด-19 อีก 1 คน และได้เข้ารับการรักษาตามขั้นตอนแล้ว ซึ่งได้กักตัวเพื่อนร่วมงานที่ใกล้ชิดแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าว ไม่ได้พักอาศัยอยู่ภายในทำเนียบรัฐบาล แต่อาศัยอยู่บริเวณชุมชุน ซอยพิษณุโลก 1 ซึ่งมีการระบาดไปก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตามในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ ภายหลังพบเจ้าหน้าที่ตำรวจติดเชื้อ ทำเนียบรัฐบาลจะทำการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อบริเวณอาคารต่างๆ รวมถึงห้องปฏิบัติงานสื่อมวลชน