อนุมัติเงินเพิ่มผู้สูงอายุ ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จ่ายย้อนหลัง4.7 ล้านคน
ข่าวดีผู้สูงอาย ให้คืนเบี้ยยังชีพซ้ำซ้อน จ่ายเงินช่วยตามบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้ผู้สูงอายุ 4.7 ล้านคน ขยายโครงการพักหนี้คนแก่อีก 6 เดือนถึง มีค.65
ที่ประชุม คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ (กผส.) ซึ่งมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน ได้มีการหารือเรื่องการดูแลผู้สูงอายุ ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันและการขับเคลื่อนสังคมผู้สูงอายุไทย โดยมีมติดังนี้
1.เห็นชอบแนวทางการจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิจากโครงการ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยเป็นการจ่ายย้อนหลังให้แก่ผู้มีสิทธิ์จำนวน 4.7 ล้านคน รายละเอียดคือ
-ปีงบประมาณ 2563 จ่ายเงินสงเคราะห์ตั้งแต่เดือน มิ.ย.-ก.ย. อัตรา 100บาท/เดือน สำหรับผู้สูงอายุที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี และอัตรา50บาท/เดือน สำหรับผู้สูงอายุที่มีรายได้มากกว่า 30,000 บาทต่อปี แต่ไม่เกิน 1แสนบาทต่อปี
-ปีงบประมาณ 2564 เป็นอัตราเช่นเดียวกับปีก่อน จ่ายเดือนเว้นเดือน (6งวด) เริ่มตั้งแต่ตุลาคม 2563
2.เรื่องการรับ เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ซ้ำซ้อนกับสวัสดิการอื่นที่เคยเป็นประเด็นก่อนหน้า ที่ประชุมมีมติตามคำวินิจฉัยของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา คือ
1) คืนเงินที่เรียกเก็บจากผู้สูงอายุที่รับเงินซ้ำซ้อนกับสวัสดิการอื่น ซึ่งมีจำนวนประมาณ 1.5 หมื่นราย และมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงการคลังหาแนวทางดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งเดือน หลัง ครม.พิจารณาเห็นชอบมติดังกล่าว
2) ถอนฟ้องหรือระงับการบังคับคดีในกรณีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้มีการดำเนินคดีเรียกคืนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุไปแล้ว
3) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการกำหนดนโยบายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆเพื่อศึกษาแนวทางการกำหนดนโยบายและหลักเกณฑ์ในการจ่ายเบี้ยยังชีพฯแบบใหม่ให้มีประสิทธิภาพและครอบคลุมทุกมิติ
3)เห็นชอบขยายเวลาการ พักชำระหนี้ ของลูกหนี้กองทุนผู้สูงอายุ ต่อไปอีก 6 เดือน จากที่จะหมดเวลาในเดือน 30 ก.ย.ปีนี้ ไปจนถึง 31 มี.ค. 2565
4)เห็นชอบแผนปฏิบัติการด้านผู้สูงอายุ ระยะที่3 (พ.ศ. 2566-2580) พร้อมรับสังคมสูงวัยแบบสมบูรณ์ ซึ่งประกอบแผนฯย่อย 1) เตรียมความพร้อมของประชากรก่อนวัยสูงอายุ 2) ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุทุกมิติอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม 3) ปฏิรูปและบูรณาการระบบบริหารเพื่อรองรับสูงวัยอย่างมีคุณภาพ 4) เพิ่มศักยภาพการวิจัยการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมรองรับสังคมสูงวัย
ทั้งนี้ นายจุรินทร์ยังได้กล่าวว่า คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติมีความห่วงใยและขอเป็นกำลังใจให้แก่ผู้สูงอายุในช่วงสถานการณ์ โควิด19 และจะกำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคฯ ให้การดูแลผู้สูงอายุเป็นกรณีพิเศษ