ยูเอ็นเผยว่า กัมพูชามีอัตราฉีดวัคซีนโควิด-19 สูงในภูมิภาค
องค์การสหประชาชาติประจำกัมพูชาออกแถลงการณ์ว่า กัมพูชาเป็นประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในประชากรวัยผู้ใหญ่สูงที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตกขององค์การอนามัยโลก (WHO)
สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่าเมื่อช่วงค่ำวันอังคาร (3 ส.ค.) องค์การสหประชาชาติประจำกัมพูชาออกแถลงการณ์ว่า กัมพูชาเป็นประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในประชากรวัยผู้ใหญ่สูงที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตกขององค์การอนามัยโลก (WHO)
แม้จะมีข้อจำกัดด้านการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ทั่วโลก แต่รัฐบาลกัมพูชาก็สามารถจัดหาวัคซีนได้ตรงตามเป้าหมายที่กำหนด ผ่านการจัดซื้อแบบทวิภาคี โครงการโคแวกซ์ (COVAX) ซึ่งริเริ่มโดยองค์การอนามัยโลก และการบริจาค" แถลงการณ์ระบุ
กัมพูชาเริ่มแผนฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 กับประชากรวัยผู้ใหญ่เมื่อวันที่ 10 ก.พ. และเริ่มฉีดวัคซีนให้กับเยาวชนอายุ 12-17 ปี เมื่อวันที่ 1 ส.ค. โดยตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้กับประชาชน 12 ล้านคน แบ่งเป็นผู้ใหญ่ 10 ล้านคน และเยาวชน 2 ล้านคน หรือร้อยละ 75 ของจำนวนประชากรทั้งหมด 16 ล้านคนภายในเดือนพฤศจิกายน กระทรวงสาธารณสุขกัมพูชา ระบุว่าหากนับจนถึงวันที่ 3 ส.ค. มีประชาชนฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสแรกแล้วราว 7.48 ล้านคน ในจำนวนนี้ฉีดวัคซีนครบสองโดสแล้ว 5 ล้านคน รวมถึงมีเยาวชนฉีดวัคซีนแล้ว 124,157 คน หรือร้อยละ 6.3 ของเยาวชนกลุ่มเป้าหมาย
จนถึงขณะนี้ กัมพูชาได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้วมากกว่า 20 ล้านโดส และคาดว่าจะได้รับเพิ่มในอนาคต โดยปัจจุบันกัมพูชาใช้งานวัคซีนของซิโนแวคและซิโนฟาร์มของจีน และแอสตราเซเนกาของสหราชอาณาจักร ซึ่งได้รับการรับรองโดยองค์การอนามัยโลก
"วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่อยู่ในบัญชีการใช้งานในกรณีฉุกเฉินขององค์การฯ (WHO Emergency Use Listing) แสดงผลดีเยี่ยมด้านการป้องกันอาการร้ายแรงและการเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลจากเชื้อไวรัสชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์เดลตา รวมถึงสายพันธุ์ที่น่ากังวลอื่นๆ" แถลงการณ์ระบุ
การฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เป็นหนึ่งในมาตการรับมือสำคัญในการต่อสู้กับการแพร่ระบาด ทว่าการฉีดวัคซีนอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ โดยลี ไอแลน ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำกัมพูชา ระบุว่าประชาชนต้องปฏิบัติตามมาตรการทางสังคมและทางสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพอื่นๆ อย่างเคร่งครัดด้วย
"ฉันรู้สึกโล่งใจที่ร้อยละ 93 ของบุคลากรทางการแพทย์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสแล้วก่อนเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา และดีใจที่มีการเร่งรัดและให้ความสำคัญกับการฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุ ถือเป็นความคืบหน้าอันโดดเด่นอย่างยิ่ง" ลีโพสต์บนทวิตเตอร์
.
วันพุธ (4 ส.ค.) กระทรวงฯ รายงานพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้น 583 ราย รวมถึงผู้ป่วยจากต่างประเทศ 157 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยรวมอยู่ที่ 79,634 ราย และพบผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่ม 17 ราย ทำให้ยอดรวมอยู่ที่ 1,488 ราย รวมถึงมีผู้ป่วยรักษาหายเพิ่ม 658 ราย ทำให้ยอดรวมอยู่ที่ 72,803 ราย
ที่มา China Xinhua News