เรื่องจริงจากการสูญเสีย "หมอแอ้ม" เผยที่บ้านติดโควิด 7คน อาการเร็วมาก
น้องชายหมอเเอ้ม เผยสูญเสียบุคคลในครอบครัว3รายจากเชื้อโควิด จี้นำเข้าวัคซีนที่มีคุณภาพ mrna และ Subunit Protein คนทั้งบ้านติดโควิดถึง7ราย เเอดมิททุกคน
จากกรณีข่าวเศร้าสูญเสียบุคลากรทางการแพทย์ โควิดได้คร่าชีวิต "หมอแอ้ม" นาวาอากาศเอกหญิง แพทย์หญิงสรัญยา ฬาพานิช เเพทย์ประจำรพ.ภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ กองทัพอากาศ สำหรับ หมอเเอ้ม เป็นอดีตผอ.รพ.กองบิน ถือเป็นหญิงแกร่ง อารมณ์ดี ตัดสินใจเด็ดขาด เป็นผู้นำที่ลูกน้องรัก
โดย พลอากาศโท อนุตตร จิตตินันทน์ ประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย ได้เผยผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว Anutra Chittinandana วันนี้ทราบข่าวการจากไปของหมอแอ้ม นาวาอากาศเอกหญิง แพทย์หญิงสรัญยา ฬาพานิช แล้วรู้สึกใจหายมาก ๆ ได้ทำงานกับน้องเรื่องการพัฒนาคุณภาพ รพ.กองบิน 4 ตอนสมัยที่แอ้มเป็น ผอ.รพ.กองบิน แอ้มเป็นหญิงแกร่ง อารมณ์ดี ตัดสินใจเด็ดขาด เป็นผู้นำที่ลูกน้องรัก สามารถนำทีมจน รพ.กองบิน 4 ตาคลี เป็น รพ.กองบินแห่งแรกที่ได้รับการรับรอง HA แอ้มอยู่ รพ.กองบินนานมาก เพิ่งกลับมา รพ.ภูมิพลอดุลยเดช ไม่นานนี้เอง
แอ้มน่าจะเป็นบุคลากรทางการแพทย์ของ รพ.ภูมิพลอดุลยเดชคนแรกที่เสียชีวิตจากโควิด-19 แอ้มเป็นหมอรังสีรักษาแต่ก็มีความเสี่ยงกับการเป็นโควิด เหมือนบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานอยู่ทุกคน ขอให้น้องไปสู่สุคติในสัมปรายภพ และขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของน้องด้วยครับ รู้สึกเลยว่าตอนนี้อันตรายของโควิด 19 ใกล้ตัวเข้ามาทุกขณะครับ
ทั้งนี้ทางเพจ หมอแล็บแพนด้า ได้ระบุข้อมูลเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ คุณหมอเเอ้มได้รับวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม
ด้านทางเพจAVELA Cliniqueซึ่งเป็นน้องชายของหมอเเอ้ม คือ นายแพทย์สิทธิพงศ์ ฬาพานิช หรือ หมอเตี๋ยว ได้โพสต์เกี่ยวกับการเสียชีวิตของพี่สาวตนเองว่า ..เคสพี่สาวผม (นอ หญิง ดร พญ สรัญยา ฬาพานิช) เป็นเเพทย์ที่เเม้จะฉีดวัคซีนไปแล้วก็ยังติดเชื้อโควิดและเสียชีวิต
ครอบครัวเราเสียชีวิตจากโควิด ตอนนี้ 3ชีวิตครับ คือคุณแม่ เมื่อ 25/7 คุณพ่อ 31/7 แล้วก็พี่สาว เมื่อวานนี้ผมคิดว่าผมมีสิทธิที่จะพูดความรู้สึก และความต้องการที่เห็นสถานการณ์โควิด ในประเทศปัจจุบันนี้ผมเองไม่อยากจะโทษวัคซีนใดๆว่าดีหรือไม่ดี เพราะ หลายยี่ห้อฉีดครบก็มีเสียชีวิตครับ แต่โดยหลักทางวิชาการที่ยอมรับในหลายๆประเทศทั่วโลกนั่น ชนิด mrna หรือ subunit protien น่าจะเป็นคำตอบที่ดีในเบื้องต้นนี้ครับ
และเเม้ว่าวัคซีนที่น่าจะครอบคลุมทุกเชื้อน่าจะเป็นล็อตของปีหน้า แต่เรารอเเบบนั้นไม่ได้นะครับ เราต้องมีวัคซีนที่มาตรฐานจำนวนมากกว่าที่มีตอนนี้ครับ
ปัญหาของเราคือ "กฎที่ออกว่า ใครจะซื้อต้องผ่านหน่วยงานรัฐ"
ผมเองไม่มั่นใจในเรื่องกฎหมายเท่าไรนัก แต่ผมคิดว่า ถ้าเราสามารถออกกฎแบบที่ ราชกิจจาฯ ที่ให้ สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์นำเข้าได้ ก็น่าจะออกให้บรรดา โรงพยาบาลเอกชน หรือ องค์กรเอกชน สามารถนำเข้าได้ ถ้าไม่เชื่อใจโรงพยาบาลเอกชนที่ใด ก็ผ่านตัวสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ก็น่าจะเป็นสมาคมใหญ่ในระดับที่น่าเชื่อถือได้นะครับ
การนำเข้าวัคซีนที่ยอมรับ ในต่างประเทศมามากที่สุด เท่าที่ทำได้ ในทุกๆทาง โดยไม่ต้องอาศัยกฎเกณฑ์ ผ่านหน่วยงานรัฐ น่าจะอนุโลมให้ใช้ในสถานการณ์ ที่คนไทยได้ฉีดวัคซีนเพียง 25% (นี่คือรวมเชื้อตายและ mrna) ของประชากร
เพราะวัคซีนยิ่งเยอะ (โดยเฉพาะพวก วัคซีนmRNA และ Subunit Protein) มันก็จะยิ่งดีไม่ใช่หรือครับ มันน่าจะถึงเวลาที่เราควรแก้บางกฎ เพื่อให้คนไทยได้วัคซีน "ที่มาตรฐาน" ที่จะพอป้องกันตัวเองได้ อย่างน้อย เราก็พอมองเห็นทางสว่างข้างหน้าครับ ผมเชื่อว่า ถ้าออกกฎที่แก้ได้ จะมีบริษัท หรือ โรงพยาบาลมากมาย หรือแม้แต่หน่วยงานใดๆ ที่จะยินดีติดต่อเอง และเราจะผ่านวิกฤตนี้ไปได้ อย่างรวดเร็วเพราะเราเสียเวลามามากเกินไปแล้วครับ กับคำว่ารอ วัคซีนที่มาตรฐาน ครับ
เปิดโอกาสให้องค์กรต่างๆ นำเข้าวัคซีนเองเถอะครับ มีมากดีกว่ามีไม่พอนะครับ
นายแพทย์สิทธิพงศ์ ฬาพานิช (หมอเตี๋ยว)
นอกจากนี้ยังมีผู้ใช้เฟซบุครายหนึ่งเผยเรื่องราวเพิ่มเติมเดี่ยวกับ หมอเเอ้ม
เรื่องจริงจากหมอแอ้ม
นาวาอากาศโท พญ.สรัญยา
ศิษย์เก่าเซนต์โยฯ(สามีก็เป็นหมอ) โรงพยาบาลภูมิพล
มาอัพเดทอาการนะคะ
แอ้มอยู่ ICU เกือบ 2 สัปดาห์ ตอนนี้ออกจาก ICU มาอยู่ห้องสังเกตอาการแล้วค่ะ แต่ก็ยังใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ค่ะ โอกาสตายน้อยลง แต่ก็ขึ้นกับว่าปอดจะตอบสนองต่อยาฆ่าโควิดมั้ย เห็นข่าวพยาบาลตายจากโควิดแล้วกลัวตายค่ะ มันน่ากลัวมาก
ที่บ้านเริ่มจากอุ้มเป็นหอบ ซึ่งเป็นโรคประจำตัวอยู่แล้ว เลยจับตรวจโควิดทั้งบ้าน ผลก็ไม่มีใครเป็นโควิด
แล้ววันรุ่งขึ้นทาง รพ.ภูมิพลแจ้งมาว่าพยาบาลที่ช่วยแอ้มตรวจคนไข้ ติดโควิดจากคนไข้ ก็เลยตรวจซ้ำทั้งบ้าน สรุปว่าที่บ้านติด 7 คนค่ะ แอ้ม คุณตา คุณยาย เคน อุ้ม โอบ และแม่นมของพี่ แอดมิททุกคน รอดแค่น้องสาวคนเดียว
อาการเร็วมาก เพลียๆแค่วันเดียว วันไปตรวจโควิดซ้ำแอ้มยังเดินได้ แต่ก็แอดมิท แต่รุ่งขึ้นอยู่ดีๆแอ้มก็ไม่สามารถหายใจเองได้
ตอนนี้แอ้มใช้เครื่องช่วยหายใจค่ะ รอยาออกฤทธิ์ที่ปอดค่ะ ภาวนาให้ได้ผล ไม่งั้นคงตายใน 1-2 สัปดาห์ค่ะ ถ้าไม่เสียชีวิตก็คางเหลืองค่ะ คงอยู่ รพ.เป็นเดือน นี้่ก็จะ 3 สัปดาห์แล้ว หวังว่าจะได้เจอกันอีกนะคะ ส่วนเด็กๆอาการน้อย หายแล้ว เพิ่งออกจาก รพ.ค่ะ ตอนนี้พักฟื้นที่คอนโดตรงศาลาแดงค่ะ
ทุกคนระวังตัวนะคะ ถ้าเริ่มมีอาการต้องรีบไปตรวจ เพราะอาการมันจะแย่ลงเร็วมาก
ขอบคุณค่ะทุกความห่วงใยค่ะ หวังว่าจะได้เจอกันอีกนะคะ
4 สิงหาคม 2564
………………….
ขอแสดงความเสียใจ
คุณพ่อคุณแม่เสียชีวิตไปก่อนแล้ว..
ส่วนเธอเพิ่งเสียชีวิตเมื่อใกล้วันแม่นี้เอง..
ขอบคุณ
AVELA Clinique
Anutra Chittinandana
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews