จ๊ะจ๋า-จิ๊บ วสุ เปิดหมดเปลือกชีวิตรัก เคลียร์ปมหนักใจในการปั๊มทายาท
จ๊ะจ๋า พริมรตา และ จิ๊บ วสุ คู่สามีภรรยาคนบันเทิงออกมาเปิดใจหลังที่จากทั้งคู่ได้ใช้ชีวิตร่วมกันพร้อมเผยถึงจุดเปลี่ยนชีวิตครั้งใหญ่ เคลียร์ปมหนักใจในการปั๊มทายาท
เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งคู่รักที่มีคนจับตามองมาตลอด สำหรับคู่ของจ๊ะจ๋า พริมรตา และนักร้อง-นักแสดงรุ่นใหญ่ จิ๊บ วสุ แสงสิงแก้ว หลังจากคบหาดูใจกันเข้าปีที่ 7 และได้จัดงานแต่งบนฟ้าด้วยการเช่าเครื่องบินเจ็ตไปแต่งงานที่หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 14 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา ล่าสุดทั้งคู่ ควงแขนกันมาเปิดใจเล่าถึงสถานะใหม่ เปิดหมดเปลือกเรื่องการใช้ชีวิตของคู่ที่ต่างขั้วแต่ลงตัวสุดๆ พร้อมเผยถึงจุดเปลี่ยนชีวิตครั้งใหญ่ที่ไม่เคยพูดมาก่อน และเรื่องที่แสนจะหนักใจในการปั้มทายาท เพราะมีปัญหาในทำการบ้านไม่ได้หรือไร
หลังจากเป็นสามีภรรยาแล้ว จ๊ะจ๋า ฮุบทุกอย่างของพี่จิ๊บมันคือยังไง?
จ๊ะจ๋า พริมรตา : มันเป็นเรื่องจริงค่ะ ทั้งมีชีวิตและไม่มีชีวิต ยึดหมด ไม่มีชีวิต เช่น บ้าน สวน รถ ต่างๆนาๆ เขามีรถโบราณเยอะ ก็ค่อยเอามาขับช่วยดูแล มุมต่างๆของบ้านจ๋าก็เอามาถ่ายรูป ฮุบแม่เขาด้วย เป็นแม่ของจ๋าเรียบร้อย เวลาพี่จิ๊บออกไปตีเทนนีสตอนบ่ายๆ จ๋าก็จะหันมาดูในบ้านหลังนี้ มีเรา มีแม่เขา มีพ่อบ้านของเขา มีแม่บ้านของเขา นี่บ้านของเขา ทั้งหมดนี่มันคือของเราหมดแล้วนี่ เขาไม่ต้องกลับมาก็ได้นี่ เป็นเจ้าของเต็มที่ รู้สึกสบายใจ
จิ๊บ วสุ : คำว่าฮุบทั้งหมดมันคือเรื่องปลายเหตุ ต้นเหตุคือถ้าฮุบหัวใจกันมาตั้งแต่แรกไม่ได้ สิ่งนี้ก็ไม่เกิดขึ้น
จุดเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่ของชีวิตคู่
จ๊ะจ๋า พริมรตา : สิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวและความรู้สึกของจ๋า กับเราสองคนนั่นคือกระจกวิเศษที่สะท้อน เพราะว่าจ๋าไม่เคยเห็นตัวเองในมุมนี้เลยที่ทำท่าทางแบบนั้น ความรู้สึกในช่วงเวลานั้นสำหรับเรา 2 คนมันอัดอั้นมาก
3 ปีผ่านมายังทะเลาะกันประจำวันไหม?
จิ๊บ วสุ : เอาเป็นว่า ทะเลาะกันแบบมีพัฒนาการ ในสิ่งที่เป็นเรื่องหลักๆ เรื่องใหญ่ๆที่ต้องขยับปรับเปลี่ยนให้ลงตัว มันก็มีช่วงนั้นผ่านมา จนกระทั่งเราเข้าใจกันได้ในระดับหนึ่ง เรื่องที่มีความเห็นแย้งเรื่องปกติของทุกคู่ต้องมี สัพเพเหระประจำวันเพียงแต่ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ละเอียดมากขึ้น และอยู่ในพื้นฐานความเข้าใจ ที่ละเอียดอ่อนกันได้มากขึ้น ปัจจุบันก็จะเป็นเรื่องจุกๆจิกๆ ตามประสาคนที่อยู่ครอบครัวเดียวกันวิธีการทะเลาะก็เปลี่ยนไปสร้างสรรค์ขึ้น สมัยก่อน Talk to my hand สมัยนี้ขึ้นเสียงเหรอ เข้าห้องปิดประตูจบ ไปปรับทัศนคติ
เทคนิคกระชับรักชีวิตคู่ของ จ๊ะจ๋า พริมรตา - จิ๊บ วสุ
จ๊ะจ๋า พริมรตา : เวลาเราทะเลาะกัน ส่วนใหญ่เมื่อก่อนมันต้องพูด จากที่เราได้ศึกษากันมาหลายทางแล้ว การพูดปัญหาออกมาในตอนนั้นยิ่งทำให้ปัญหามันแย่ลง แต่ตอนนี้ยังพูดไม่จบพี่จิ๊บมากอดแล้ว อะไรพูดกับพี่เบาๆ เสียงเบาๆ มีอะไรบอกพี่ จากที่จะโกรธลดลง แล้วก็ค่อยๆบอกเขา เขาจะมีเทคนิคอันหนึ่ง ทุกวันเลยเขาจะถามจ๋าว่า วันนี้เป็นยังไงบ้าง จ๊ะจ๋ามีความสุขไหม วันนี้จ๊ะจ๋ารักพี่มากขึ้นหรือเปล่า ในทุกวัน
จิ๊บ วสุ : ไม่ได้พูดเพื่อที่จะเอาใจไปเรื่อยเปื่อย เมื่อใดก็ตามที่รู้สึกว่าทุกอย่างมันลงตัว เลิศเลอเพอร์เฟคดีหมดทุกอย่างแล้ว อย่าประมาทโดยเด็ดขาด มันจะเหมือนกับรถหนึ่งคันเราซื้อมาใหม่เอี่ยมเลย ขับนิ่งเบาสบายแอร์เย็น แต่เมื่อไหร่ก็ตามถ้าเราไม่ใส่ใจ ไม่เช็คระยะไม่ดูน้ำมัน เป็นอันแน่ใจได้เลยว่าสักวันหนึ่งถ้าหากเราปล่อยไปเรื่อยๆ วันหนึ่งอาจจะพังพินาศเสียกลางทางที่ไหนก็ได้ ฉะนั้นสำหรับผมเองถือเป็นหลักเลยว่า ในเมื่อเราได้สิ่งที่ดีที่สุดมาอยู่กับตัวเรายากแล้ว แต่จะดูแลรักษาให้มีความสุขกายสุขใจได้ทั้งร่างกายและจิตใจทุกวันมันยากกว่า
ปัญหาในการมีทายาทหลักๆ คืออะไร ?
จ๊ะจ๋า พริมรตา : ปัญญาส่วนใหญ่คือเวลาค่ะ จ๋าอยากมีลูกมาก จ๋าชอบเด็กและก็มั่นใจว่า จ๋าจะสามารถทุ่มเทเวลาเพื่อจะเลี้ยงคนๆหนึ่งได้เต็มที่แน่นอน โดยที่จ๋าไม่บกพร่องต่อการเป็นภรรยา แต่ปัญหาคือว่าเวลาเราไม่ตรงกันเลย ไม่ใช่ว่างานยุ่งนะคะ แต่ว่ากลางคืนเขาไม่นอน จ๋านอนกลางคืน เพราะต้องทำงานกลางวัน แล้วจ๋าก็จะเหนื่อยมากช่วงเวลา 4-5 ทุ่มเราก็จะง่วงมากแล้ว แต่เขาทำโน้นทำนี่ต้องรอเที่ยงคืนส่งสวัสดีวันพุธไปหาเพื่อน มีข่าวสารมาทางไลน์ต้องอัพเดท ก่อนส่งเราก็ต้องไปเช็คก่อนว่าข่าวนี้ชัวร์หรือมั่ว แล้วค่อยส่งไป กลุ่มนี้ยังไม่นอน ส่งกลับมาคุยกัน ตี 5 บางวันจ๋าตื่นมา 7 โมงเช้า ฮัลโหล! ทำไมวันนี้ภรรยาพี่สวยจังเลย เดี๋ยวนะทำไมสดชื่นจังอ่ะ อ่อ ตอบไลน์อยู่เนี้ยมาดูสิ คนละ Time zone มาก ทำการบ้านไม่ได้ค่ะ ถ้าจะทำการบ้านต้องหาเรื่องทะเลาะอ่ะคะ (หัวเราะ) คือปัญหานี่ไม่ใช่ของจ๋าคนเดียวนะ คุณแม่บอกมีลูกให้แม่สักทีสิ อยากเป็นย่าแล้ว จิ๊บช่วยมีลูกหน่อยสิ คุณแม่บอกเสมอค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews