"หมอชันสูตร" ยอมพูดแล้ว ทำไมต้องช่วย "ผู้กำกับโจ้" ปกปิดสาเหตุการเสียชีวิต
"หมอชันสูตร" ยอมพูดแล้ว ทำไมต้องช่วย "ผู้กำกับโจ้" ในการปกปิดสาเหตุการเสียชีวิต ของผู้ต้องหาที่โดนคลุมหัว
จากกรณีข่าวดังร้อนไปทั่วโลกออนไลน์สำหรับกรณีข่าวของ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล ผกก.สภ. เมืองนครสวรรค์ หรือ ผู้กำกับโจ้ ที่มีคลิปหลุดออกว่อนโลกโซเชียล ในลักษณะที่คล้ายว่ากลุ่มตำรวจหลายนาย ช่วยกันทำร้ายผู้ต้องหาคดียาเสพติด โดยการใช้ถุงคลุมหัวหลายชั้น จนทำให้ผู้ต้องหาขาดอากาศหายใจกระทั่งเสียชีวิตในที่สุด แต่ผลชันสูตรกลับออกมาว่าผู้ต้องหารายดังกล่าวเสพยาเกินขนาดจนเสียชีวิต
ต่อมา ตำรวจชุดสืบสวนของ บช.ภูธร ภาค 6 ได้ควบคุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ได้แล้ว 4 คน ขณะกำลังจะหลบหนี และอยู่ระหว่างการสอบปากคำ รวมทั้งติดตามจับกุม พ.ต.อ.ธิติสรรค์ หรือ ผกก.โจ้ และพวกที่คาดว่าหลบหนีไปก่อนหน้านี้อย่างกระชั้นชิด ขณะนี้ พนักงานสอบสวนเตรียมเดินทางไปศาล เพื่อขออนุมัติหมายจับ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ พร้อมพวก อีก 7 คนในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยศาลอนุมัติหมายจับแล้ว และตอนนี้ตำรวจจับได้แล้ว 4 ราย
ล่าสุด แพทย์ผู้ทำการชันสูตร เปิดเผยว่า ทางตำรวจได้ส่งศพมาให้ตน และตนได้ทำการชันสูตรเก็บหลักฐานทุกอย่าง ตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้า หมอยอมรับว่าตั้งแต่รับเคสมา ก็รู้แล้วว่าเคสนี้ไม่ปกติพบว่า บริเวณรอบคอของผู้เสียชีวิตไม่มีรอย บริเวณข้อมือมีรอยนิดหน่อย มีแผลที่ศีรษะ แต่ไม่มีร่องรอยบาดแผลตามตัว ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตจริง ๆ นั้นมาจากการขาดอากาศหายใจ เหมือนกับผู้ต้องหาโดนผ้าชุบน้ำปิดหน้าให้หายใจไม่ออก แล้วถูกเอาถุงดำคลุมหัวอีกที ซึ่งสาเหตุที่หมอช่วยปกปิดความผิดนั้น เพราะหมอทำงานในพื้นที่ เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย และต้องยอมรับว่าในตัวของผู้ต้องหามีการเสพยาจริง ตอนที่ติดต่อมา ตำรวจพูดจาดีมาก บอกว่าเป็น "คำแนะนำ" และหมอเคยทำงานกับคน ๆ นี้ก่อนที่ผู้กำกับโจ้จะมาด้วย
ทางด้าน ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้เผยสตอรี่ของท่านหนึ่ง ว่า เคสของนายจิระพงษ์ คือมาแอดมิตเวรบ่าย เป็นเคสที่รับต่อมาจากโรงพยาบาลปากน้ำ มาด้วยอาการ Post Arrest (ภาวะที่เกิดขึ้นภายหลังจากหัวใจหยุดเต้น) ตำรวจให้ข้อมูลว่า คนร้ายวิ่งหนีตำรวจแล้ววูบไป แต่จริง ๆ คือ คนร้ายมีเลือดออกในร่างกาย suction มีก้อนเลือดเต็มไปหมด และหมอคาดว่าเขาน่าจะโดนทำร้ายมา จากนั้นส่งเคสต่อก็พบสารเสพติดในปัสสาวะ ถามอะไรตำรวจก็บอกไม่รู้ พอคลิปออกมาก็รูเลย สงสารคนไข้มาก
ทางด้าน โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ก็ได้แถลงเช่นกันว่า ผู้ต้องหาอายุ 24 ปี รับตัวมาจาก โรงพยาบาลปริ้นส์ปากน้ำโพ เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2564 เวลา 19.20 น. และเสียชีวิตลงในวันที่ 6 สิงหาคม 2564 เวลา 13.20 น. และมีข้อมูลเบื้องต้นว่า ผู้ต้องหาวิ่งหนีตำรวจแล้วหมดสติ
ทั้งนี้ แพทย์นิติเวชได้ชันสูตรในวันที่ 7 สิงหาคม 2564 ซึ่งจากการตรวจคัดกรองพบว่า พบสารเมทแอมเฟตามีน และสารแอมเฟตามีน ในปัสสาวะ จึงลงสาเหตุการตายในหนังสือรับรองการตายเบื้องต้นเอาไว้ และตอนนี้กำลังรอการตรวจระดับสารเมทแอมเฟตามีน และผลการชันสูตรพลิกศพจริง ๆ เพื่อนำมาสรุปในรายงานฉบับสมบูรณ์ซึ่งจะออกในสัปดาห์หน้า ซึ่งข้อมูลดังกล่าว เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น เพื่อให้ญาติเอาไปทำใบมรณบัตร ซึ่งจะแตกต่างจากใบชันสูตรจริง และตอนนี้ ทางโรงพยาบาล กำลังดำเนินการรวบรวมข้อมูลทุกอย่างอยู่
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews