ร.ต.ท. ดื้อ ติดโควิดไม่ยอมรักษา เอาเชื้อมาแพร่พ่อตาดับ
ร.ต.ท. สังกัด สภ.เมืองปทุมธานี รู้ว่าตัวเองติดโควิด-19 มีผลตรวจยืนยันจาก รพ.ตำรวจ แต่ ร.ต.ท.รายนี้ไม่เข้ารับการรักษาตัวที่ รพ. แต่กลับเดินทางกลับมาที่บ้านพักภรรยา สุดท้ายนำเชื้อมาแพร่พ่อตาจนเสียชีวิต
จากกรณี ร.ต.ท. สังกัด สภ.เมืองปทุมธานี รู้ว่าตัวเองติดโควิด-19 มีผลตรวจยืนยันจาก รพ.ตำรวจ เมื่อวันที่ 25 ส.ค.64 ที่ผ่านมา แต่ ร.ต.ท.รายนี้ไม่เข้ารับการรักษาตัวที่ รพ. แต่กลับเดินทางกลับมาที่บ้านพักภรรยา หมู่ที่ 11 บ้านคร้อ ตำบลนาฝาย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ และเก็บตัวเงียบอยู่ในบ้านกับภรรยา พร้อมแม่ยาย พ่อตาที่ป่วยติดเตียง จนเมื่อวันที่ 26 ส.ค.64 ที่ผ่านมาทางผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 11 และ รพ.สต.นาฝาย รวมทั้งศูนย์คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชัยภูมิ ได้รับแจ้งว่า ร.ต.ท.รายนี้ติดโควิด-19 แล้ว
โดย ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ประสานแจ้ง นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ (ผวจ.ชัยภูมิ) พร้อมนายแพทย์วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ ( สสจ.ชัยภูมิ) และนายอนุชา เจริญรักษ์ นายอำเภอเมืองชัยภูมิ ( นอภ.เมืองชัยภูมิ) เร่งช่วยกันจัดชุดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบ้านดังกล่าว ซึ่งทาง ร.ต.ท.พร้อมภรรยา ยืนยันว่าตัวเองติดเชื้อทั้ง 2 คน และสามารถมารักษาตัวอยู่ในบ้านดังกล่าวได้ และมาตามขั้นตอนถูกต้อง ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ต่างพากันหวาดผวาแตกตื่นไปทั่วว่าจะมีการนำเชื้อมาติดญาติคนในบ้านที่มีทั้งผู้สูงอายุกลุ่มเสี่ยงทั้งแม่ยาย พ่อตาที่ป่วยติดเตียง และหวั่นจะแพร่เชื้อไปสู่กันในหมู่บ้านตามมาอีกจำนวนมากได้
ก่อนที่รุ่งเช้าวันวันที่ 28 ส.ค.64 เจ้าหน้าที่ จึงได้จัดรถเดินทางมารับตัวผู้เป็นแม่ยาย และพ่อตาที่ป่วยติดเตียง ของ ร.ต.ท.ดังกล่าวเข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.ชัยภูมิ และตรวจหาเชื้อโควิด-19 ตามมาสุดท้ายผลยืนยันก็ติดโควิด-19 จากลูกเขย ร.ต.ท.รายนี้ ก่อนที่จะช่วยรักษาอาการของพ่อตาจากการป่วยโควิดฯ มาได้เพียง 8 วัน คุณตารายนี้ก็ได้เสียชีวิตจากอาการป่วยโควิด-19 ลงแล้วเมื่อช่วงเช้าวันนี้( 5 ก.ย.64) ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่จะได้เร่งนำศพไปประกอบพิธีทางศาสนาตามมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อ(เผาศพ)ผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ที่เข้มงวดสูงสุดและไม่สามารถให้ญาติมาร่วมพิธีเผาศพในครั้งนี้ได้ภายใน 24 ชั่วโมงต่อไป
ด้าน นายแพทย์วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์ สสจ.ชัยภูมิ เปิดเผยว่า ได้มีการสั่งดำเนินคดี โดยฝ่ายนิติกรประจำสำนักงานร่วมกับสาธารณสุขอำเภอเมืองชัยภูมิ ดำเนินการเข้าแจ้งความเอาความผิดกับ ร.ต.ท.เมืองปทุมธานี รายนี้แล้ว ตามฐานความผิด พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ตามมาตรา 34 ที่ไม่ยอมแยกตัวเข้ารับการรักษา หากเป็นข้าราชการที่ควรจะรู้กฎข้อระเบียบดีอยู่แล้ว ยังทำเสียเองก็ต้องถือว่ามีความผิดเป็น 2 เท่าทั้งวินัย และอาญา หนักกว่าคนธรรมดา กรณีนี้อยากให้เป็นกรณีศึกษาเตือนใจไม่อยากให้เป็นเยี่ยงอย่าง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews