รปภ.เล่านาทีคุยหนุ่มปริศนาคดีแม่ค้าออนไลน์สาวดับคาอพาร์ตเมนท์
รปภ.เล่านาทีคุยหนุ่มปริศนาคดีแม่ค้าออนไลน์สาวดับคาอพาร์ตเมนท์ อาการไม่มีพิรุธอะไร เมื่อทราบอีกทีก็ได้ข่าวว่ามีผู้เสียชีวิตก็รู้สึกตกใจมาก
จากกรณีแม่ค้าออนไลน์เสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาคาห้องพักอพาร์ทเมนต์ ซึ่งตอนนี้ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวชายต้องสงสัยที่อยู่กับผู้เสียชีวิตเป็นคนสุดท้ายมาสอบข้อเท็จจริงและยังไม่ฟันธงว่าเป็นการฆาตกรรม เนื่องจากยังไม่มีผลชันสูตรการเสียชีวิต แต่เบื้องตนตรวจพบว่าผู้เสียชีวิตติดเชื้อโควิด-19 และได้เผาร่างไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ล่าสุดมีการสอบถามรปภ.ของอพาร์ทเมนต์ที่มีภาพจากกล้องวงจรปิดว่าได้พูดคุยกับชายต้องสงสัยขณะขี่รถจักรยานยนต์กลับไป
เหตุเกิดจากเพื่อนผู้ตายแจ้งว่าผู้ตายซึ่งมีอาชีพเป็นแม่ค้าออนไลน์ แต่ไม่ได้ติดต่อกันนานแล้ว กระทั่งวันนี้(3 ก.ย.) จู่ๆ แม่ของผู้ตายติดต่อมาหาตนเอง ว่าไม่สามารถติดต่อลูกสาวได้หายเงียบไปตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค. ก่อนสืบทราบมาว่าผู้ตายพักอยู่ อพาร์ตเมนต์แห่งนี้ และให้ผู้ดูแลขึ้นไปดูจนพบว่าเสียชีวิตอยู่ภายในห้อง ผู้ดูแลอาคารให้การว่าผู้ตายมาเช่าพักอยู่คนเดียวตั้งแต่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา ระหว่างพักอยู่มีเพื่อนชายแวะเวียนมาหาบ้าง แต่ก็ไม่เคยสังเกตว่าเป็นใคร
ต่อจากนั้นเจ้าหน้าตำรวจที่ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดของอพาร์ตเมนต์ พบว่า เมื่อเวลาประมาณ 01.30 น. ของวันที่ 1 ก.ย.64 ได้มีผู้ชายเข้ามาหาผู้ตาย ที่ห้อง ก่อนจะออกจากห้องตอน 02.30 น. จากนั้นชายคนดังกล่าวเดินลงมาชั้นล่าง และขี่ จยย.ออกจากหอพัก ก่อนจะหยุดคุยกับ รปภ.ที่ด้านหน้าอาคาร สักพักใหญ่ก็ขี่ จยย.ออกไปทันที
ล่าสุดทางนักข่าวได้สัมภาษณ์รปภ.คนดังกล่าวว่าได้พูดคุยอะไรกับผู้ต้องสงสัยบ้าง โดยรปภ. ของตึกให้ข้อมูลว่า วันเกิดเหตุตนเข้ากะดึก เห็นชายคนหนึ่งขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามาตนจึงถามว่า "มาหาใคร" เขาบอกว่า "มาหาน้อง" ตนจึงปล่อยให้ขึ้นไปและก็เห็นผู้ตายเดินลงมารับ
จนกระทั่งหลังเที่ยงคืนตนก็สังเกตเห็นว่าชายคนดังกล่าวเดินลงมาแล้วขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปทันที ตนจึงได้กวักมือเรียกเพื่อให้หยุดรถ และได้พูดคุยกันประมาณไม่ถึง 10 นาที โดยตนได้ถามว่า "มาทำอะไร กลับดึก ๆ ช่วงหลังเคอร์ฟิว ขี่รถไม่กลัวเหรอ" ชายคนดังกล่าวตอบกลับเพียงว่า "ไม่กลัวครับ"
รปภ. บอกอีกว่า ตนมาทำงานได้เพียง 1 เดือนเท่านั้น ไม่ได้พูดคุยกับผู้ตายมากเท่าไหร่ ไม่รู่ว่าเขาทำงานอะไร มีผู้ชายมาหาบ่อยหรือไม่ ส่วนตัวเชื่อว่าหากผู้ชายคนนั้นก่อเหตุจริงก็ไม่น่าจะหยุดรถมาคุยกับตนได้ ประกอบกับเขามีท่าทางใจเย็นด้วย แต่ทว่าต่อมาได้ทราบเรื่องอีกทีก็พบว่ามีผู้เสียชีวิต ก็รู้สึกตกใจมาก
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ฟันธงว่าเป็นการลงมือสังหารหรือไม่เพราะยังไม่ได้ผลชันสูตร
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews