นิมนต์"2พส."พระมหาไพรวัลย์-พระมหาสมปอง ชี้แจงปมไลฟ์สด9ก.ย.นี้

   กรณีประเด็นที่กำลังเป็นกระเเสในโลกออนไลน์ เมื่อวัด2พส. วัดสร้อยทอง พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ และ พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต ได้ไลฟ์สดผ่านเพจ พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ จนสร้างปรากฎการณ์ครั้งใหญ่มีผู้เข้าชมไลฟ์มากถึง 2 แสนคนนั้น ซึ่งหน่วยงานในหลายๆฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็เริ่มออกมาเคลื่อนไหวถึงประเด็นการไลฟ์สดสนธนาธรรม ของ 2 พส. เเล้ว 

   ล่าสุดในวันที่  6ก.ย.64   นายสุชาติ อุสาหะ ส.ส.เพชรบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) การศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า วันที่ 9 ก.ย.นี้ เวลา 10.00น. กมธ.ศาสนาฯจะนิมนต์พระมหาไพรวัลย์ และพระมหาสมปอง เข้าชี้แจง ภายหลังเกิดกระแสวิจารณ์ในโซเชียลมีเดียลถึงการออกมาไลฟ์สดผ่านทางเฟซบุ๊ค

  ซึ่งในประเด็นนี้ ทาง กมธ. ก็มิได้นิ่งนอนใจ เตรียมจะนำเรื่องเข้าสู่ กมธ. เพื่อขอมติออกหนังสือเชิญ-นิมนต์ พระสงฆ์ทั้ง 2 รูปและบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง ตามอำนาจหน้าที่ของ กมธ. ที่เป็น 1 ใน 3 ของอำนาจคือ อำนาจฝ่ายนิติบัญญัติ

    อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวตนเองมองว่า การที่พระทั้งสองออกมาทางสื่อสารทางสื่อโซเชียลมีเดียนั้น สามารถทำได้ แต่ก็ต้องพิจารณาถึงคำวิพากษ์วิจารณ์ รวมถึงต้องพิจารณาว่า มีโฆษณาแฝงหรือไม่

 ด้าน นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล รองประธานคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า หลังจากที่ พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ และ พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต ได้ไลฟ์สดในเพจ ระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ จนมีผู้เข้าชมมากถึง 2 แสนคนนั้น ได้มีกระแสสังคมออกมาสนับสนุนและต่อต้าน ซึ่งทั้ง 2 ขั้วมีการวิพากษ์วิจารณ์กันในแง่มุมต่างๆ สำหรับคณะกรรมาธิการศาสนาฯ ได้รับการร้องเรียนเข้ามาถึงความไม่ถูกต้อง ที่มีการหัวเราะที่มากเกินไปในขณะไลฟ์สด ทำให้ไม่เหมาะแก่สมณสารูป อาจผิดพระธรรมวินัยและธรรมเนียมปฏิบัติของชาวไทยพุทธ

รองประธานคณะกรรมาธิการการศาสนา ยังกล่าวอีกว่า ประเด็นของ พระมหาไพรวัลย์ และพระมหาสมปอง ถือเป็นเรื่องใหญ่และมีความละเอียดอ่อนมาก เพราะกระทบต่อวงการสงฆ์ที่ถือเป็น 1 ใน 3 สถาบัน ซึ่งต้องยอมรับว่าสังคมปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก โดยเฉพาะปัจจัยของโควิด-19 ที่เข้ามาเป็นปัจจัยเร่งให้การเข้าถึงพระสงฆ์ มีรูปแบบที่สามารถเข้าถึงกันในแบบ Online ได้มากขึ้น การตอบโต้การเทศนาในรูปแบบเดิมจึงอาจจะเปลี่ยนไป

แน่นอนกิจการที่พระพุทธเจ้าทรงประทานแก่พระจักขุบาลเถระ ว่า ธุระในพระพุทธศาสนานี้มี 2 อย่าง คือ คันถธุระและวิปัสสนาธุระ ซึ่งก็จะตรงกับกิจการพระพุทธศาสนา ที่ล้นเกล้ารัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานแก่พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ทุกรูป ที่ปรากฏในสัญญาบัตรพัดยศ ว่า ขอจงรับภารธุระในพระพุทธศาสนา” ทำให้สัมพันธ์กับกิจการพระพุทธศาสนาที่เป็นหน้าที่ของคณะสงฆ์ ในพันธกิจ 6 ด้าน ประกอบด้วย 1.การปกครอง 2.การศาสนศึกษา 3.การศึกษาสงเคราะห์ 4.การเผยแผ่ 5.การสาธารณูปการ 6.การสาธารณสงเคราะห์
 

ขอบคุณภาพ
สุชาติ อุสาหะ ส.ส.เพชรบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ
ดร.เพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews