สั่งสอบวินัยร้ายแรง เนตร นาคสุข คดีไม่สั่งฟ้อง บอส อยู่วิทยา
มติเป็นเอกฉันท์ ก.อ.9:2 สั่งสอบนายวินัยร้ายแรง เนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุดกรณีไม่สั่งฟ้องคดีบอส อยู่วิทยา
วันนี้ (21 ก.ย.2564) ผลการประชุมคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) พิจารณาผลการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณี นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด กรณีไม่สั่งฟ้อง บอส อยู่วิทยา ในคดีขับรถชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ที่มีนายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ กรรมการอัยการ (ก.อ.) ผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นประธาน ได้สรุปสำนวนการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว เห็นว่า นายเนตร มีความผิดวินัยไม่ร้ายแรง เพราะไม่พบการทุจริต แต่เป็นความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมครั้งนี้ คณะกรรมการ ก.อ. เสียงส่วนใหญ่ จำนวน 9 ต่อ 2 เสียง เห็นควรสอบวินัยร้ายแรง นายเนตร ไม่สั่งฟ้อง บอส อยู่วิทยา เนื่องจากขาดความรอบคอบ ประมาทเลินเล่ออย่างค่อนข้างร้ายแรง ซึ่งจะต้องตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงต่อไป โดยความผิดวินัยร้ายแรงมีโทษสูงสุดทางราชการคือการไล่ออก หากผู้เสียหายไม่พอใจ ไม่เห็นด้วย สามารถฟ้องต่อศาลปกครองได้
สำหรับกรรมการกอ. 2 คน ที่งดออกเสียงคือ นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด กับนายไชยา เปรมประเสริฐ รองอัยการสูงสุด ที่ประชุม ก.อ.ยังได้ตั้งนายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อดีตอธิบดีสำนักงานอัยการคดีพิเศษ เป็นประธานคณะกรรมการฯ และหลังจากนี้นายธนพิชญ์จะเป็นฝ่ายหากรรมการฯอีก 2 คน และเลขานุการฯอีก1คน
นายพชร กล่าวว่า วันนี้ถือว่าได้ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงนายเนตร ไม่สั่งฟ้อง บอส อยู่วิทยา จะมีระยะเวลาสอบสวนข้อเท็จจริงเบื้องต้น 60 วัน และสามารถขอขยายระยะเวลาได้อีก 2-3ครั้ง จะสอบในประเด็นการสั่งคดีที่ก่อนให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง ส่วนประเด็นที่นายเนตรจะยื่นหนังสือลาออกอีกครั้งที่2นั้น เป็นอำนาจของอัยการสูงสุดพิจารณา
ส่วนจะมีการประสานข้อมูลกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือไม่ นายพชรกล่าวว่าในชั้นต้นก็ต่างคนต่างสอบ แต่ว่าอาจจะไปรวมกันในทีหลังก็ได้ สำหรับในข้อมูลยังมีอัยการชื่อย่อ ช. อีกคนที่เข้าไปมีส่วนร่วมในคดีนี้ นายพชรกล่าวว่า ได้สั่งการให้คณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงของนายธนพิชญ์ดำเนินการสอบในเรื่องนี้ด้วยแล้ว ส่วนจะเป็นวินัยร้ายแรงหรือไม่ ต้องพิจารณาอีกครั้ง
กรณีนายวงศ์สกุล อัยการสูงสุดหนังสือต่อ กอ.ว่าไม่ประสงค์จะเป็นอัยการอาวุโส ที่ประชุม ก.อ.ได้พิจารณาแล้ว และอนุมัติ และจะพ้นวาระการเป็นข้าราชการในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ส่วนการเสนอแต่งตั้งให้นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรีขึ้นให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการอัยการ นายพชรกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ได้มีการนำเข้าที่ประชุม ก.อ.ในวันนี้ อันที่จริงเรื่องนี้ไม่จำเป็นจะต้องนำเข้าสู่ที่ประชุม ก.อ.เพราะเป็นเรื่องที่อัยการสูงสุดจะเป็นผู้สั่งการในฐานะผู้บังคับบัญชา
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews