หนุ่มใหญ่ดวงเฮง วิ่งออกกำลังกายอยู่ดีๆ เตรียมได้เป็นเศรษฐี
หนุ่มใหญ่ภูเก็ต ดวงเฮง ไปวิ่งออกกำลังกายที่ชายหาดอยู่ดีๆ เจอของล้ำค่าหายากเตรียมได้เป็นเศรษฐี รวยเละ 30 ล้าน
สร้างความฮือฮาให้ชาวภูเก็ตเป็นอย่างมาก จากกรณีที่ได้มีการเปิดเผยเรื่องราวของ นายยงยุทธ ลิ่มสืบเชื้อ อายุ 66 ปี ชาว จ.ภูเก็ต ที่ชะตาชีวิตจะพลิกผันอย่างมาก เนื่องจากเขาวิ่งออกกำลังกายอยู่ดีๆ บนชายหาดใกล้บ้าน ก่อนจะไปสะดุดตากับสิ่งของบางอย่างที่อาจทำให้เขารวยได้ถึง 30 ล้าน
นายยงยุทธ ได้เล่าว่า ไม่กี่วันที่ผ่านมา ตนไปวิ่งออกกำลังกายที่หาดไม้ขาว วิ่งมาสักระยะ ก่อนมาพบก้อนสีเหลืองขาวขุ่นคล้ายอ้วกวาฬ หรือ อำพันทะเล ซึ่งตอนแรกตนคิดว่าเป็นโฟมจึงลองใช้นิ้วจิ้มดูก็พบว่าเป็นลักษณะนิ่มๆ มีกลิ่นคาวๆ จึงมั่นใจว่าเป็นอ้วกวาฬแน่ๆ ก่อนจะนำลังกระดาษมาใส่ก้อนดังกล่าวและนำกลับมาบ้าน
ครั้งแรกที่ตนพบก้อนสีเหลืองดังกล่าวนั้น มีเศษใบสนพันอยู่โดยรอบ พร้อมทั้งมีเม็ดทรายปะปนติดอยู่เมื่อลองคาดคะเนพบว่ามีน้ำหนักราว 19 กิโลกรัม ซึ่งพบบริเวณหาดไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นายยงยุทธยังระบุว่าต้องการติดต่อเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้มาพิสูจน์ก้อนดังกล่าว
-เตือน เฝ้าระวัง 7 เขื่อนหลัก รับอิทธิพล พายุดีเปรสชัน บุกถล่มไม่หยุด
-หนุ่มตกงานดวงเฮง เจอแบงก์ 20 แปลก ลองโพสต์เล่นๆ สุดท้ายมีคนขอซื้อ 15,000 บาท
-พ่อหม้ายเมียทิ้งดวงเฮง ถูกรางวัลที่1 รับทรัพย์ใหญ่ 12 ล้าน
ชาวภูเก็ตพบอ้วกวาฬรายนี้เปิดเผยต่อไปว่า ที่ผ่านมาเคยเห็นข่าวคนที่ไปพบอำพันทะเลหรืออ้วกวาฬจะมีลักษณะเช่นนี้ จึงอยากจะนำไปให้ผู้เชี่ยวชาญที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน อ่าวมะขาม ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต เป็นผู้ตรวจสอบและพิสูจน์ก่อน
จากเบื้องต้นที่ นายยงยุทธ ศึกษามาพบว่าอำพันทะเลจะมี 3 แบบ คือ 1. อำพันสีดำ เรียกว่าอำพันขี้ควาย 2. อำพันสีขาว และ 3.อำพันสีเหลืองทอง เรียกว่า อำพันทอง ซึ่งถ้าเป็นอำพันทะเลหรืออ้วกวาฬจริง ตนก็จะขายในราคาที่เหมาะสม ซึ่งขณะนี้ตนยังไม่ได้ตั้งราคาไว้
อย่างไรก็ตาม ในธรรมชาตินั้น วาฬหัวทุยเพียง 1 - 5% เท่านั้นที่มีอำพันทะเล ซึ่งอำพันทะเลคุณภาพดี จะมีราคาขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 1.5 ล้านบาท ขณะที่ก้อนวัตถุที่ นายยงยุทธ พบนั้น มีนำหนักถึง 19.5 กิโลกรัม ดังนั้นหากพิสูจน์ได้ว่าเป็น "อำพันทะเล" หรือ "อ้วกวาฬ" จริงก็จะมีมูลค่าเกือบ 30 ล้านบาท
ภาพจาก สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews