ฮือฮา สาวเผยภาพกระเพาะปลาเก่าเก็บ ใบละ 100,000

ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งได้เผยภาพของกระเพาะปลาที่เก่าเก็บมาตั้งแต่อาเหล่าม่า ที่ขายออกไปได้ใบละ 1 แสนบาท เนื่องจากมีลูกค้าจะถือไปฝากผู้ใหญ่ในวันหมั้น และฝากให้ต้มซุปด้วย ทำเอาชาวทวิตแห่เข้ามาคอมเมนต์กันมากมาย

โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์แอคเคาน์ @TTOOPPTTTOOOPPP เริ่มอธิบายลงในทวิตส่วนตัวต่อไปว่า อันที่จริงกระเพาะปลาคือถุงลมของปลา แต่เพี้ยนมาเป็นกระเพาะได้ยังไงไม่รู้ ซึ่งราคาของมันก็จะแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ น้ำหนัก ความและความเก่า ซึ่งบางสายพันธุ์ขายกันกิโลกรัมละหลายล้านบาทเลยทีเดียว

ทั้งนี้สายพันธุ์ของกระเพาะปลาที่ราคาสูงมากที่สุดก็คือ ปลาเมี๊ยน หรือ เมี่ยนฮื้อในภาษาแต้จิ๋ว ที่สูญพันธุ์ไปแล้วในปัจจุบัน แล้วถ้าปลาเมี๊ยนที่อยู่น่านน้ำจีน ฮ่องกง เวียดนาม ก็จะราคาสูงกว่าฝั่งปากีสถาน หรืออเมริกา

นอกนั้นที่เค้าเอามาทำกระเพาะปลาก็จะมีกิมซัว ไซไฮ้ และ เจี่ยโต้ว ซึ่งราคาก็แตกต่างกัน มีตั้งแต่ราคาหลักพัน จนถึงหลัก 10 ล้าน!!! งานนี้อาจจะบอกได้เลยว่า ถ้าอยากหันมาจับธุรกิจทางด้านนี้ ต้องศึกษาดีๆเพราะราคาแพงกว่าบิทคอยด์เสียอีก

 

• สาวบีบหัวใจ เจอคุณตาขายกระเพาะปลา นั่งหลับคาโต๊ะ เที่ยงคืนยังไม่กลับบ้าน
• หนุ่มต่างชาติสะพรึง ซื้อผักมาทำอาหาร แต่ไม่ยอมล้าง เกือบตักเข้าปาก
• สาวทำอาหาร ส่งเป็นเสบียง ให้เพื่อนบ้านที่กักตัว รอเตียง รพ. ว่างอยู่บ้าน

จากนั้นเจ้าของเรื่องก็ได้อธิบายและแนะนำเคล็ดลับวิธีการตุ๋นกระเพาะให้อร่อย ซึ่งเธอบอกว่า ก่อนอื่นเลยคือ กระเพาะปลาพวกนี้ ถูกเก็บกันมาหลาย 10 ปี จนแข็งโป๊ก มีดที่ไหนก็หั่นไม่ได้ เค้าก็เลยต้องเอาไปแช่น้ำข้ามคืน แล้วก็เอามาเป่าลมให้แห้งซักชั่วโมงหนึ่ง แล้วค่อยเอามาตัด

แต่ถ้าสกปรกก็เอาแปรงเก่าๆ มาขัดหน่อย ทำความสะอาดไป โดยให้ค่อยๆ ถู อย่าให้สึกหรอ เพราะเดี๋ยวหลุดไปซักกรัมนึงก็หายไปหลายพันเลยละ จากนั้นพอเริ่มนิ่ม พอบิดๆ เพราะได้เหมือนยางลบละ แล้วก็นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 240 องศา เพื่อให้มันหดตัว และ พองขึ้นอีกค่ะ เหมือนฟื้นคืนชีพมัน

ขั้นตอนนี้ต้องจับตามองอย่างดี เพราะระหว่างที่เข้าเตาอบคอยดูด้วยนะ อย่าให้ไหม้เด็ดขาด!!! และสามารถนำน้ำพรมๆ ได้เลย เพื่อไม่ให้มันไหม้ จากนั้นพอมันพองฟูเต็มที่ คือดูซักพักแล้วมันไม่ฟูเพิ่มละก็เริ่มตัดได้ ซึ่งมันจะหนาขึ้นกว่าตอนแรกประมาณ 2-3 เท่าได้ ข้างในจะนุ่มๆ เหมือนเยลลี่เลย 

หลังจากหั่นเสร็จแล้ว เรามาเริ่มตุ๋นกันเลย ซึ่งเธอบอกว่าอันนี้เป็นสูตรส่วนตัวที่ตกทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ อาจจะไม่นานนัก แต่ก็หลาย 10 ปี ด้วยการเริ่มจากมาดูที่สมุนไพรจีนที่จะนำมาตุ๋นกันก่อนเลย ก็จะมี ปักคี้, เง็กเต็ก, ตังเซียม, เซ็กตี้, ชวงเกียง, โฮ่ยซัว, เก๋ากี้, พุทราจีนดำ และ ลำไยสีทอง ส่วนใหญ่ก็จะบำรุงเลือด บำรุงสมอง หัวใจ ปอด เบาหวาน ตามความเชื่อของคนจีน

ต่อมาคือไก่ดำ ต้องใช้ไก่ดำแท้ ไก่ดำแท้ดูยังไง?? ไก่ดำแท้ต้องดำยันกระดูก!!!! ตาดำ หงอนดำ กระดูกดำ เครื่องในดำ ดำให้สุดๆ ไปเลย แล้วควรใช้ไก่ดำสด ไม่แนะนำให้แช่แข็ง หรือ ค้างคืนหลายคืน เพราะรสชาติความอร่อยมันจะดรอปไป

นอกจากไก่ดำแล้วก็ใช้ไก่บ้าน แล้วก็หัวใจหมูเป็นอีกวัตถุดิบสำหรับการตุ๋นในครั้งนี้ เตรียมวัตถุดิบครบแล้วก็มาเริ่มตุ๋นกันเลย ก่อนอื่นนำไก่ดำ ไก่บ้าน แล้วก็หัวใจหมูไปล้างเลือด ทำความสะอาดให้เรียบร้อย จากนั้นก็เอาใส่หม้อ เติมน้ำอุณหภูมิห้องให้ท่วมขึ้นมาซัก 5-10 cm. แล้วใช้วิธีตุ๋นเอาหรือ Double Boiled และต้องใช้ไฟอ่อนตลอดการตุ๋น

ตุ๋นไปซัก 6-8 ชม. ถ้าน้ำเริ่มงวด ให้ค่อยๆ เติมน้ำเรื่อยๆ ถ้าไก่เริ่มนุ่มแล้วเป็นอันใช้ได้ ทีนี้ก็มาตุ๋นยาจีนกันต่อ ซึ่งการตุ๋นยาจีน ตุ๋นแค่พอนุ่มก็กรองออกได้เลย อย่าตุ๋นจนมันเละ เพราะบางอย่างพอมันเละแล้ว มันจะให้รสเฝื่อน แทนที่ซุปของเราจะหวาน หอม พอติดเฝื่อนปุ๊บ มันก็ไม่อร่อยไปเลย กินยาก

พอเครื่องยาจีนนุ่มปุ๊บ กรองออกแล้วใส่กระเพาะปลาลงไปตุ๋นต่อจนนุ่มค่ะ น่าจะอีกซักประมาณ 8-10 ชม.เลยกว่ากระเพาะปลาที่หนาขนาดนี้จะนุ่ม ซึ่งปกติเราจะไม่ปรุงรสอะไรเลย อย่างมากสุดก็ใส่เกลือลงไปนิดหน่อย หรือ ถ้าอยากได้รสเค็มจากธรรมชาติก็ใส่กังป๋วย หรือ หอยเชลล์ตากแห้งเพิ่มได้

นอกจากนี้เธอยังระบุอีกว่า "เดี๋ยวซุปถ้วยนี้ถ้าเราตุ๋นเสร็จแล้วจะเอามาอัพเดทอีกทีนึงนะค้า ยอมรับเลยค่ะว่าไม่เคยทำเมนูไหนในชีวิตที่แพงขนาดนี้มาก่อนเลย 555555 ตื่นเต้นกว่าตอนไปแข่งทำอาหารที่อเมริกาอีก จะเจ๊ง ไม่เจ๊ง อีก 3 วันเจอกันค่ะ"

ข้อมูลจาก  @TTOOPPTTTOOOPPP

 

ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews