เรื่องลี้ลับน้ำวน หน้าวัดพนัญเชิง สายน้ำอาถรรพ์ชาวเรือรู้จักดี!
จากเหตุเรือลากจูงล่มในแม่น้ำ บริเวณแยกวัดพนัญเชิงวรวิหาร เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา จึงมีการบอกเล่าเกี่ยวกับอาถรรพ์น้ำวน หน้าวัดพนัญเชิง!
จากกรณีที่เราทราบกันดีแล้วว่าเกิดเหตุเรือลากจูงล่มในแม่น้ำ บริเวณแยกวัดพนัญเชิงวรวิหาร เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา จุดรอยต่อระหว่างแม่น้ำป่าสัก และ แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งขณะเกิดเหตุเกิดน้ำวน เป็นเหตุให้ นายสมชาย ธารกุล อายุ 64 ปี คนขับเรือ และ นางนฤมล จันทรโชติ ภรรยา อายุ 51 ปี ซึ่งทำหน้าที่ เป็นนายท้ายเรือจมน้ำสูญหาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถกู้ซากเรือและค้นหาร่างได้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดมีรายงานว่า ชาวบ้านในระแวกนั้น พบศพหญิงสาวรายหนึ่ง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ร่างของเธอลอยห่างจากจุดเรือล่มประมาณ 10 กิโลเมตร โดยสอดคล้องกับการคาดการณ์ของเจ้าหน้าที่ว่า ถ้าหากพบร่างของผู้เคราะห์ร้าย อาจจะห่างจากจุดเกิดเหตุไม่ต่ำกว่า 10 กิโลเมตร
นอกจากนี้ จากการรายงานเบื้องต้นพบว่า เป็นร่างของ นางนฤมล ภรรยานายสมชาย 2 ผู้สูญหายจากเหตุเรือล่มวัดพนัญเชิง ซึ่งขณะนี้กำลังให้ญาติๆ ของ นางนฤมล เข้ามายืนยันอีกครั้งว่าใช่ร่างของ นางนฤมล แท้จริงหรือไม่ แต่เบื้องต้นได้รับการยืนยันแล้วว่า เจอตัว 1 ในผู้สูญหายเหตุการณ์ เรือล่มอยุธยา แล้ว
โดยก่อนหน้านี้ทาง นายพิชญ แซ่เฮง อายุ 29 ปี นักประดาน้ำค้นหาผู้สูญหายทั้งสอง กล่าวว่า พบเรืออยู่ในลักษณะตะแคงกับแม่น้ำป่าสัก ความลึกประมาณ 20 เมตร กระแสน้ำไหลแรงมาก น้ำสีขุ่นมาก ใช้ไฟฉายส่องใต้น้ำ ไม่สามารถมองเห็นน้ำ ต้องใช้มือสัมผัสพบโครงหลังคาของเรือ
-อยุธยา"เรือล่ม" ใกล้สะพานอโยธยา อีก1ลำ
-ร่างผู้สูญหายจากเหตุเรือล่มวัดพนัญเชิง ล่าสุด ไม่ใช่แค่ 2 ชีวิตต้องสูญเสีย
-เจอแล้ว เรือล่มกลางแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมเผยความคืบหน้า สามี-ภรรยา สูญหาย
ในขณะเดียวกัน นางสาวจุฑาทิพย์ การกสิขะวิที อายุ 41ปี ลูกสาวของผู้สูญหายบอกว่า ตนเองเคยอาศัยอยู่เรือกับพ่อมาแต่เกิดรู้และทราบดีกระแสน้ำ หน้าวัดพนัญเชิงเชี่ยวกราดเป็นน้ำวน น้ำลึกมากใต้น้ำกระแสน้ำไหลแรงมากเมื่อกระแสน้ำสองสาย เจ้าพระยา ป่าสัก ไหลมาบรรจบกันจะกลายเป็นน้ำวน ดูดเรือชาวเรือจะรู้ดีแต่ละปีจะมีเรือถูกน้ำวนดูดจมลงประจำ กลายเป็นสายน้ำอาถรรพ์ชาวเรือรู้จักดี เรือทุกลำที่จะผ่านช่วงน้ำวน จะต้องจุดธูปบอกกล่าวเสีย ก่อนที่จะนำเรือผ่านไปได้อย่างปลอดภัย คนเรือเขาจะรู้ดี
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews