ญาติแฉ รพ. ปล่อยคนไข้นอนรอจนรักษาไม่ทัน ไปเขย่าตัวถึงรู้ว่าเสียชีวิตแล้ว
ญาติแฉโรงพยาบาลปล่อยคนไข้นอนรอจนรักษาไม่ทัน ไปเขย่าเตียงถึงรู้ว่าเสียชีวิตแล้ว ล่าสุดทางโรงพยาบาลเผยจะออกมาชี้แจงในช่วงบ่ายวันที่ 2 ตุลาคม 2564
จากกรณี ญาติโพสต์แฉโรงพยาบาลปล่อยคนไข้นอนรอจนรักษาไม่ทัน ไม่ได้รับการตรวจ ไม่ได้รับการดูแล ญาติวิ่งเข้าไปเขย่าเตียงถึงรู้ว่าเสียชีวิตไปแล้ว ลั่นจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ทางด้านโรงพยาบาลเผยว่าจะชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้นในช่วงบ่ายวันที่ 2 ตุลาคม 2564
โดยญาติได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความว่า "การที่คุณปล่อยคนไข้ไว้แบบนี้ คุณทำถูกแล้วใช่ไหม ไปหาหมอตั้งแต่เช้า นอนอยู่แบบนี้ไม่ได้รับการตรวจ ไม่ได้รับการดูแล คุณปล่อยคนไข้ตายจนญาติต้องวิ่งไปเขย่าเตียง ถึงรู้ว่าคนไข้ไม่อยู่ด้วยแล้ว มันถูกแล้วใช่ไหม จะรับผิดชอบยังไง ?"
มันแย่ไปหมดเลย ไปหาหมอเป็นสิบๆรอบแต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร สุดท้ายมาบอกว่าปอดติดเชื้อ รักษาไม่ทัน
จากนั้นมีสาวเข้ามาคอมเมนต์บอกว่าวันเกิดเหตุนอนอยู่เตียงใกล้ๆคุณตาที่เสียชีวิต เล่าว่า "หนูนอนรอหมอมาทำแผลนานมากค่ะรอตั้งแต่10จนบ่ายสองพึ่งให้ทำแผลค่ะ หนูนอนยุฝั่งตรงข้ามกะตาแกค่ะพี่" "เค้าบอกว่าให้ญาติออกไปรอข้างนอกค่ะ หนูมีญาติมาคอยเช็ดตัวให้ตาค่ะ แต่พาญาติออกไปเค้าก็บ่นค่ะว่าเปลืองงบค่ะแล้วเค้าก้อบ่นว่าตาแกชอบเอาสายออกซิเจนออกค่ะ"
- อ.อ๊อด ไขข้อสงสัย คลิปแสงไฟปริศนา ลอยเหนือคอกวัว
- กู้ร่างคนขับเรือได้แล้ว ลูกสาวร้องโฮ พ่อใส่นาฬิกาที่ซื้อให้ติดตัวตลอด!
- "หมอธีระ"เผยสิ่งที่หวังใจว่าจะไม่เกิดขึ้น แนะอย่าใช้ยาตัวนี้ รักษาโควิด
ตรวจสอบพบว่าผู้เสียชีวิตเสียชีวิตเมื่อวันที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา ตอนนี้ญาติได้ตั้งบำเพ็ญกุศลไว้ที่วัดแห่งหนึ่งใน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ทางครอบครัวติดใจสาเหตุการเสียชีวิตและต้องการให้ทางโรงพยาบาลออกมาชี้แจงเรื่องนี้
ภรรยาผู้เสียชีวิตเล่าว่าได้ส่งสามีเข้ารับการรักษาตั้งแต่เช้า แต่ทางห้องฉุกเฉินได้เข็นเตียงคนไข้มารอข้างนอกไม่ได้รักษาให้ ปล่อยคนไข้นอนรออยู่อย่างนั้นจนกระทั่งตอนบ่าย เมื่อสอบถามได้ความว่าทางแพทย์กำลังรักษาผู้ป่วยโควิดอยู่ให้รอก่อน สุดท้ายสามีเสียชีวิตไปแล้ว
ภรรยาบอกด้วยว่ารู้สึกงงเพราะสามีมีอาการเจ็บ ด้านขวามีอาการมึนชาแต่ะเมื่อมาโรงพยาบาลหมอบอกว่าเสียชีวิตจากหัวใจล้มเหลว ซึ่งมันขัดกัน อยากให้โรงพยาบาลออกมาชี้แจงให้กระจ่าง
ซึ่งทางผอ.โรงพยาบาลบอกว่าจะออกมาชี้แจงในเวลา 15.00น.วันนี้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews