"12 จังหวัด" น้ำท่วม ล่าสุด อิทธิพลจาก พายุไลออนร็อก
ปภ. รายงานสถานการณ์อุทกภัยจากอิทธิพลพายุ “ไลออนร็อก” ตั้งแต่วันที่ 8 – 14 ต.ค 12 จังหวัด ยังมีน้ำท่วม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือประชาชนต่อไป
14 ต.ค. 64 เวลา 09.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์อุทกภัยจากอิทธิพลพายุ “ไลออนร็อก” ตั้งแต่วันที่ 8 – 14 ต.ค. 64 เกิดอุทกภัยใน 8 จังหวัด รวม 18 อำเภอ 67 ตำบล
296 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6,251 ครัวเรือน ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต สถานการณ์คลี่คลายแล้ว6 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ใน 2 จังหวัด (จันทบุรี และตราด) ขณะที่อิทธิพลพายุ “เตี้ยนหมู่” ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. – 7 ต.ค. 64 ทำให้เกิดอุทกภัย รวม 33 จังหวัด รวม 225 อำเภอ 1,196 ตำบล 8,192 หมู่บ้าน 1 เขตเทศบาล ประชาชนได้รับผลกระทบ 332,738 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 14 ราย สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 23 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ใน 10 จังหวัด ขอนแก่น มหาสารคาม นครราชสีมา นครสวรรค์ ลพบุรี สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี) ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมในภาพรวม 12 จังหวัด ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัด
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือประชาชนต่อไป
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานอิทธิพลพายุ “ไลออนร็อก” ตั้งแต่วันที่ 8 – 14 ต.ค. 64 ทำให้เกิดอุทกภัยใน 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำปาง เลย ปราจีบุรี จันบุรี ตราด ชุมพร และระนอง รวม 18 อำเภอ 67 ตำบล 296 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6,251 ครัวเรือน ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 6 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ใน 2 จังหวัด (จันทบุรี ตราด) ขณะที่อิทธิพลพายุ “เตี้ยนหมู่” ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. – 7 ต.ค. 64 ทำให้เกิดน้ำท่วม รวม 33 จังหวัด รวม 225 อำเภอ 1,196 ตำบล 8,192 หมู่บ้าน 1 เขตเทศบาล ประชาชนได้รับผลกระทบ 332,738 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 14 ราย สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 23 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ใน 10 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น มหาสารคาม นครราชสีมา นครสวรรค์ ลพบุรี สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี รวม 46 อำเภอ 312 ตำบล1,717 หมู่บ้าน 90,507 ครัวเรือน ภาพรวมยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 12 จังหวัด ดังนี้
1.จันบุรี มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเขาคิชฌกูฎ อำเภอมะขาม อำเภอขลุง อำเภอท่าใหม่ อำเภอเมือง
จันบุรี และอำเภอแหลมสิงห์ ระดับน้ำลดลง
2.ตราด มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ เขาสมิง อำเภอเมืองตราด ระดับน้ำลดลง
3. ขอนแก่น มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแวงน้อย อำเภอแวงใหญ่ อำเภอโคกโพธิ์ชัย อำเภอชนบท อำเภอมัญจาคีรี อำเภอพระยืน อำเภอบ้านแฮด อำเภอบ้านไผ่ และอำเภอเมืองขอนแก่น ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ระดับน้ำลดลง
4. มหาสารคาม มวลน้ำจากจังหวัดขอนแก่นไหลเข้าท่วมพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโกสุมพิสัย อำเภอกันทรวิชัย และอำเภอเมืองมหาสารคาม ระดับน้ำทรงตัว
5. นครราชสีมา น้ำท่วมขังในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโนนสูง อำเภอพิมาย อำเภอคง อำเภอประทาย อำเภอชุมพวง และอำเภอเมืองยาง) ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำทางการเกษตร ยังคงมีบางส่วนเป็นบ้านเรือนประชาชน ระดับน้ำลดลง
6. นครสวรรค์ น้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครสวรรค์ อำเภอพยุหะคีรี และอำเภอโกรกพระ ระดับน้ำลดลง
7. ลพบุรี น้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองลพบุรี อำเภอบ้านหมี่ และอำเภอโคกสำโรง ระดับน้ำลดลง
8. สุพรรณบุรี ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางปลาม้า และอำเภอสองพี่น้อง ได้ระบายน้ำจากประตูน้ำสําเภาทองลงสู่แม่น้ำท่าจีน ระดับน้ำลดลง
9. สิงห์บุรี น้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภออินทร์บุรี อำเภอเมืองสิงห์บุรี และอำเภอพรหมบุรี ระดับน้ำลดลง
10. อ่างทอง น้ำท่วมขังในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอ่างทอง อำเภอไชโย อำเภอป่าโมก อำเภอวิเศษชัยชาญ และอำเภอสามโก้ ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย และคลองโผงเผง ระดับน้ำลดล
11. พระนครศรีอยุธยา น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ 10 อำเภอ ได้แก่ อำเภอผักไห่ อำเภอเสนา อำเภอบางบาล อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางไทร อำเภอบางปะอิน อำเภอมหาราช อำเภอนครหลวง อำเภอบางปะหัน และอำเภอบางซ้าย ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย คลองโผงเผง และคลองบางบาล ซึ่งอยู่นอกคันกั้นน้ำ ระดับน้ำลดลง
12. ปทุมธานี น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ริมน้ำ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปทุมธานี และอำเภอสามโคก ระดับน้ำลดลง
ภาพรวมสถานการณ์คลี่คลายในหลายพื้นที่ แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ อยู่ระหว่างการเร่งระบายน้ำ ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยสำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง ฯ
สำหรับประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง///