กรมทางหลวง เผย การจราจรผ่านไม่ได้ 20 แห่ง จากน้ำท่วม
กรมทางหลวง รายงานสถานการณ์อุทกภัยบนทางหลวงวันที่ 22 ต.ค. 64 พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ 16 จังหวัด การจราจรผ่านไม่ได้ 20 แห่ง เร่งซ่อมแซม ฟื้นฟูเส้นทางที่เสียหายเพื่ออำนวยความสะดวกในการสัญจรของประชาชน
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า ตามที่ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงคมนาคม มีความห่วงใยประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนเนื่องจากเส้นทางคมนาคมได้รับผลกระทบจากอุทกภัย จึงได้กำชับให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมเร่งสำรวจ ซ่อมแซม และแก้ปัญหาเส้นทางคมนาคมที่ได้รับความเสียหาย จึงเร่งให้หน่วยงานในสังกัดดำเนินการซ่อมแซมฟื้นฟูเส้นทางอย่างเงด่วนเพื่อให้ประชาชนสามารถสัญจรได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย รวมทั้งติดตามสถานการณ์อุทกภัยตลอด 24 ชั่วโมง ขณะนี้พบว่า สถานการณ์ประจำวันที่ 22 ตุลาคม 2564 เวลา 13.30 น. ทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์และสะพานชำรุด จำนวน 16 จังหวัด ( 49 สายทาง 77 แห่ง) โดยการจราจรผ่านไม่ได้ 20 แห่ง ดังนี้
จ.ขอนแก่น (การจราจรผ่านไม่ได้ 3 แห่ง)
- ทล. 2 ท่าพระ – ขอนแก่น ช่วง กม.ที่ 329+913 (จุดกลับรถใต้สะพานกุดกว้าง) ระดับน้ำสูง 200 ซม.
- ทล. 2065 พล – ลำชี ช่วง กม.ที่ 33+625 น้ำกัดเซาะคันทางสไลด์
- ทล. 2065 พล – ลำชี ช่วง กม.ที่ 33+785 น้ำกัดเซาะคันทางสไลด์
จ.มหาสารคาม (การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง)
- ทล. 213 มหาสารคาม – หนองขอม กม.ที่ 5+530 (อุโมงค์ท่าขอมยาง) ระดับน้ำสูง 210 ซม.
จ.นครราชสีมา (การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง)
- ทล. 202 ดอนตะหนิน – ตลาดไทร ช่วง กม.ที่ 93+611 ระดับน้ำสูง 20-45 ซม.
จ.นนทบุรี (การจราจรผ่านไม่ได้ 3 แห่ง)
- ทล. 302 สะพานพระนั่งเกล้า-ต่างระดับบางใหญ่ ช่วง กม.ที่ 16+610 (จุดกลับรถใต้สะพานคลองบางไผ่เพื่อมุ่งหน้าแคราย) ระดับน้ำสูง 25-30 ซม.
- ทล. 302 สะพานพระนั่งเกล้า-ต่างระดับบางใหญ่ ช่วง กม.ที่ 16+950 (จุดกลับรถใต้สะพานคลองบางแพรกเพื่อมุ่งหน้าถนนแคราย) ระดับน้ำสูง 25-30 ซม.
- ทล. 307 แยกสวนสมเด็จ-สะพานนนทบุรี ช่วง กม.ที่ 0+942 (จุดกลับรถใต้สะพานนนทบุรี) ระดับน้ำสูง 80 ซม.
จ.อ่างทอง (การจราจรผ่านไม่ได้ 4 แห่ง)
- ทล.32 นครหลวง-อ่างทอง ช่วง กม.ที่ 32+607 (จุดกลับรถคลองกะท่อ) ระดับน้ำสูง 165 ซม.
- ทล.32 นครหลวง-อ่างทอง ช่วง กม.ที่ 33+200 (จุดกลับรถวัดค่าย) ระดับน้ำสูง 90 ซม. - ทล.32 อ่างทอง - ไชโย ช่วง กม.ที่ 57+500 (จุดกลับรถบางศาลา) ระดับน้ำสูง 135 ซม.
- ทล.33 นาคู – ป่าโมก ช่วง กม.ที่ 36+000 – 36+200 (จุดกลับรถใต้สะพานฝั่งป่าโมก) ระดับน้ำสูง 10 ซม.
จ.พระนครศรีอยุธยา (การจราจรผ่านไม่ได้ 2 แห่ง)
- ทล. 3263 อยุธยา – ไผ่กองดิน ช่วง กม.ที่ 10+940 (จุดกลับรถใต้สะพานสีกุก) ระดับน้ำสูง 195ซม.
- ทล. 3263 อยุธยา – ไผ่กองดิน ช่วง กม.ที่ 11+100 (จุดกลับรถใต้สะพานสีกุก) ระดับน้ำสูง 195 ซม.
จ.สุพรรณบุรี (การจราจรผ่านไม่ได้ 5 แห่ง)
- ทล. 33 สุพรรณบุรี - นาคู ช่วง กม.ที่ 9+886 (สะพานคลองทับน้ำ) ระดับน้ำสูง 100 ซม.
- ทล. 340 สาลี - สุพรรณบุรี กม.ที่ 49+673 – กม.ที่ 49+750 (สะพานสาลี) ระดับน้ำสูง 35-40 ซม.
- ทล. 340 สาลี - สุพรรณบุรี กม.ที่ 59+674 (สะพานศาลเจ้าแม่ทับทิม) ระดับน้ำสูง 170 ซม.
- ทล. 340 สาลี - สุพรรณบุรี กม.ที่ 71+230 – กม.ที่ 71+400 (ช่องทางคู่ขนานซ้ายขวาทาง) ระดับน้ำสูง 55 ซม.
- ทล. 3557 ถนนเข้าเมืองสุพรรณบุรี กม.ที่ 0+700 – กม.ที่ 0+726 (ด้านซ้ายทาง) ระดับน้ำสูง 55 ซม.
จ.นครปฐม (การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง)
- ทล. 338 พุทธมณฑลสาย 4 - นครชัยศรี ช่วง กม.ที่ 24+800 -25+500 ระดับน้ำสูง 50 ซม.
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางหลวงเดินทางด้วยความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัย พร้อมปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด และหากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh1