สังคม

heading-สังคม

ราชกิจจาฯ ประกาศ กำหนดหลักเกณฑ์และข้อห้ามตั้งชื่อโรงเรียนเอกชน

25 ต.ค. 2564 | 15:51 น.
ราชกิจจาฯ ประกาศ กำหนดหลักเกณฑ์และข้อห้ามตั้งชื่อโรงเรียนเอกชน

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน กำหนดหลักเกณฑ์และข้อห้ามตั้งชื่อโรงเรียนเอกชน

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน หรือ สช.  เกี่ยวกับการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการขออนุญาตใช้ชื่อโรงเรียนเอกชน โดยได้มีการกำหนดหลักเกณฑ์และข้อห้ามตั้งชื่อโรงเรียนเอกชน ไว้อย่างน่าสนใจหลายประการ 

ซึ่งประกาศนี้ได้มีการเผยแพร่ประกาศลงราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา ระบุว่า  ประกาศสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการขออนุญาตให้ใช้ชื่อโรงเรียนเอกชน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โดยที่กฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนกำหนดให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เป็นศูนย์ส่งเสริมข้อมูล และทะเบียนกลางทางการศึกษาเอกชน ดังนั้น เพื่อให้จัดเก็บข้อมูลเป็นไป อย่างมีประสิทธิภาพ ในการใช้ชื่อโรงเรียนเอกชนเป็นไปในแนวทางเดียวกัน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๔ (๖) แห่งพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. ๒๕๕๐ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน จึงออกประกาศหลักเกณฑ์ และวิธีการไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า "ประกาศสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการขออนุญาตให้ใช้ชื่อโรงเรียนเอกชน"

ข้อ ๒ ในประกาศนี้ "โรงเรียน" หมายความว่า โรงเรียนในระบบประเภทสามัญศึกษา และประเภทนานาชาติ และให้หมายรวมถึงโรงเรียนนอกระบบด้วย 

ข้อ ๓ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป 

ข้อ ๔ ผู้มีความประสงค์ขอใช้ชื่อโรงเรียนเอกชน ให้ยื่นหนังสือเพื่อขอตรวจสอบชื่อโรงเรียน โดยเรียงลำดับชื่อที่ต้องการ จำนวน ๓ ชื่อ โดยระบุชื่อภาษาไทย และชื่อภาษาต่างประเทศ (ถ้ามี) ต่อสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด สำนักงานการศึกษา เอกชนจังหวัดแล้วแต่กรณี

 

ข้อ ๕ กรณีการขอใช้ชื่อโรงเรียนเดียวกัน ผู้ประสงค์ขอใช้ชื่อเพื่อจัดตั้งโรงเรียน หรือ เปลี่ยนแปลงชื่อโรงเรียนที่มิใช่เป็นผู้รับใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนเดียวกัน ต้องมีหนังสือยินยอม หรือ หนังสืออนุญาตให้ใช้ชื่อโรงเรียนจากผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนนั้น หากผู้รับใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนเป็นนิติบุคคลจะต้องมีมติของที่ประชุมนิติบุคคล ให้ความยินยอม หรืออนุญาตให้ใช้ชื่อโรงเรียนนั้นมาประกอบการพิจารณาด้วย

ทั้งนี้ การขอใช้ชื่อโรงเรียนเดียวกัน ชื่อโรงเรียนที่ได้ยื่นขออนุญาตให้ใช้นั้น ต้องมีคำต่อท้าย ด้วยชื่ออาคาร สถานที่ หรือชื่อจังหวัด เป็นต้น 

ข้อ ๖ ให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนดำเนินการตรวจสอบชื่อของ โรงเรียนตามที่สำนักงานศึกษาธิการ หรือสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัดขอให้ตรวจสอบจากระบบบริหารจัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (EDMS) และจากแหล่งข้อมูลอื่นที่สามารถรับรองและยืนยันได้

โดยชื่อโรงเรียนต้องไม่มีการพ้องเสียงเรียกชื่อจนทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเป็นโรงเรียนเดียวกัน 

การพิจารณาการใช้ชื่อโรงเรียนต้องเป็นไปตามกฎกระทรวงการขอรับใบอนุญาตให้จัดตั้ง โรงเรียนในระบบ การกำหนดรายการ และการขอเปลี่ยนแปลงรายการในตราสารจัดตั้ง และ การกำหนดขนาดที่ดินที่ใช้เป็นที่ตั้งของโรงเรียนในระบบ พ.ศ. ๒๕๕๕ และกฎกระทรวงการขอรับ ใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนนอกระบบ พ.ศ. ๒๕๕๕ 

โดยชื่อของโรงเรียนต้องใช้ อักษรไทย และต้องมี คำว่า"โรงเรียน" ประกอบชื่อด้วย หรืออาจมีอักษรต่างประเทศกำกับด้วยก็ได้

กรณีที่โรงเรียนมีชื่อเป็นอักษรต่างประเทศด้วย ต้องอ่านแล้วได้สำเนียงสอดคล้องกับภาษาไทย หรือแปลแล้วได้ความหมายเช่นเดียวกับชื่อภาษาไทย และมีคำที่แปลแล้วมีความหมายว่าโรงเรียน นำหน้าหรือตามหลังชื่อของโรงเรียน

ราชกิจจาฯ ประกาศ กำหนดหลักเกณฑ์และข้อห้ามตั้งชื่อโรงเรียนเอกชน

ทั้งนี้ ชื่อโรงเรียนต้อง มีลักษณะ ดังนี้ 

(๑) เป็นชื่อที่สอดคล้องกับหลักสูตรหรือประเภทของโรงเรียน 
(๒) ไม่พ้องหรือมุ่งหมายให้คล้ายกับพระปรมาภิไธย พระนามาภิไธย หรือพระนาม ของพระบรมวงศานุวงศ์ เว้นแต่ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้เป็นชื่อของโรงเรียน
(๓) ไม่พ้องหรือมุ่งหมายให้คล้ายกับราชทินนาม เว้นแต่เป็นราชทินนามของตน ของผู้บุพการี หรือของผู้สืบสันดาน และได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้เป็นชื่อของโรงเรียน
(๔) ไม่พ้องหรือมุ่งหมายให้คล้ายกับชื่อสกุลหรือชื่ออื่นใดที่ได้รับพระราชทานจากพระมหากษัตริย์ เว้นแต่ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้เป็นชื่อของโรงเรียน
(๕) ไม่ซ้ำกับชื่อโรงเรียนประเภทเดียวกันหรือโรงเรียนที่เลิกดำเนินกิจการไปแล้ว ซึ่งได้รับ ใบอนุญาตให้จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน
(๖) ไม่เป็นชื่อที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจว่าเป็นตัวแทน เครือข่าย หรือสาขาของโรงเรียน หรือสถาบันหรือสถานศึกษาอื่นในต่างประเทศ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้อนุญาตให้เป็นตัวแทน เครือข่าย หรือสาขาของโรงเรียน
(๗) ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
 

ข้อ ๗ ข้อห้ามในการใช้ชื่อโรงเรียน มีดังต่อไปนี้

(๑) ชื่อโรงเรียนต้องไม่มีการพ้องเสียงเรียกชื่อจนทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเป็นโรงเรียนเดียวกัน
(๒) ไม่ควรตั้งชื่อที่เหมือนหรือใกล้เคียงกับชื่อโรงเรียนของรัฐ
(๓) ชื่อโรงเรียนที่เกี่ยวกับศาสนาต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางศาสนา
(๔) ชื่อโรงเรียนต้องเขียนหรือสะกดคำให้ถูกต้องตามหลักภาษาไทย
(๕) ชื่อโรงเรียนภาษาต่างประเทศต้องแปลแล้วมีความหมาย กรณีใช้ภาษาอังกฤษ เมื่อเขียนทับศัพท์เป็นภาษาไทยต้องเป็นไปตามหลักของราชบัณฑิตยสภา
(๖) ชื่อโรงเรียนต้องไม่เป็นอักษรย่ออย่างเดียว
(๗) ชื่อโรงเรียนจะต้องไม่มีคำว่า สถาบัน
(๘) ชื่อโรงเรียนไม่ควรเกิน ๑๕ พยางค์ 

ประกาศ ณ วันที่ ๑๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ 

อรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน

ราชกิจจาฯ ประกาศ กำหนดหลักเกณฑ์และข้อห้ามตั้งชื่อโรงเรียนเอกชน

 

ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews

ข่าวเด่น

"น้ำท่วมยะลาล่าสุด" อ่วมหนักในรอบ 20ปี ประกาศเตือนภัยยกของขึ้นที่สูง

"น้ำท่วมยะลาล่าสุด" อ่วมหนักในรอบ 20ปี ประกาศเตือนภัยยกของขึ้นที่สูง

ประกันภัยไทยวิวัฒน์ มอบของขวัญปีใหม่ สิทธิ์ใช้ประกันรถเปิดปิด ฟรี 1เดือน

ประกันภัยไทยวิวัฒน์ มอบของขวัญปีใหม่ สิทธิ์ใช้ประกันรถเปิดปิด ฟรี 1เดือน

โครงการ รวมใจภักดิ์รักษ์ทะเลไทยใสสะอาด เฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ

โครงการ รวมใจภักดิ์รักษ์ทะเลไทยใสสะอาด เฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ

"แอนนา" ไม่ยื่นอุทธรณ์ ศาลสั่งจำคุก 100 ปี ยินดีรับสภาพ

"แอนนา" ไม่ยื่นอุทธรณ์ ศาลสั่งจำคุก 100 ปี ยินดีรับสภาพ

"หวยลาววันนี้" 27/11/67 หวยลาววันนี้ ออกอะไร หวยลาว ผลหวยลาววันนี้ 27พ.ย.67

"หวยลาววันนี้" 27/11/67 หวยลาววันนี้ ออกอะไร หวยลาว ผลหวยลาววันนี้ 27พ.ย.67

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง