คลัสเตอร์โรงพักโคราช ลามหนักทั้งผู้ต้องหาทั้งตำรวจ ติดเชื้อเพิ่มไม่หยุด
สถานการณ์โควิด-19 โรงพักโคราช ลามหนักทั้งผู้ต้องหาทั้งตำรวจ ยอดติดเชื้อเพิ่มไม่หยุด ประกาศงดให้บริการประชาชนชั่วคราว
เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2564 มีรายงานความคืบหน้าคลัสเตอร์โรงพักโคราช ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา ยังลามไม่หยุด พบผู้ติดเชื้ออีก 3 ราย รวมเป็นทั้งสิ้น 33 ราย โดยเริ่มจากพบผู้ต้องหา 1 รายติดโควิด-19 ก่อน แล้วตรวจผู้ต้องหาคนอื่นๆพบอีก 29 ราย
ตอนแรก คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา ได้รับรายงานจากสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมาว่า ได้ตรวจพบผู้ต้องหาชาวต่างชาติรายหนึ่งติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงได้ทำการตรวจ ATK เชิงรุกผู้ต้องหาอีกจนพบว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีกจำนวน 29 คน โดยแยกเป็น ผู้ต้องหาจำนวน 26 คน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 นาย รวมกับผู้ต้องหารายแรกเป็นติดเชื้อทั้งหมด จำนวน 30 ราย
กระทั่งล่าสุด วันที่ 27 ตุลาคม 2564 มีรายงานว่าพบผู้ติดเชื้ออีก 3 ราย ในคลัสเตอร์โรงพักนี้ โดย พ.ต.อ.กรกฎ โปชยะวณิช ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา จับกุมตัวชาวต่างชาติที่ลักลอบเข้าเมืองมาฝากขังที่ สภ.เมืองนครราชสีมา กว่า 39 ราย และพบชาวเยอรมัน 1 รายติดโควิด จึงได้ใช้ชุด ATK ทำการตรวจเชิงรุกผู้ต้องหาชาวต่างชาติทั้งหมด 39 ราย
จากผลการตรวจพบว่ามีผู้ต้องหาติดเชื้อเพิ่มจำนวน 26 ราย และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจติดเชื้อด้วยอีก 3 นาย รวมผลตรวจรอบแรกมีผู้ติดเชื้อทั้งหมด 30 ราย เป็นผู้ต้องหาชาวต่างชาติ จำนวน 27 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวน 3 ราย และยังรอผลตรวจอีกหลายราย
และวันที่ 27 ตุลาคม ผลตรวจออกมาพบว่ามีผู้ต้องหาติดเชื้อเพิ่มอีก จำนวน 3 ราย รวมคลัสเตอร์ สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อทั้งหมด 33 รายแล้ว โดยผู้ต้องหาที่ติดเชื้อทั้งหมด ขณะนี้ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา อยู่ระหว่างประสานงานกับโรงพยาบาลสนามในพื้นที่ เพื่อที่จะได้จัดส่งไปพักรักษาตัวต่อไป
นอกจากนี้ยังได้ออกหนังสือประกาศงดให้บริการประชาชนชั่วคราว โดยกรณีไม่เร่งด่วนขอให้งดติดต่อราชการที่ สภ.เมืองนครราชสีมา ระหว่างวันที่ 26 ต.ค. – 9 พ.ย.64, กรณีแจ้งเอกสารสูญหาย ขอให้แจ้งออนไลน์ได้ที่ www.แจ้งความออนไลน์.com, กรณีต้องการมาพบกับพนักงานสอบสวนตามนัดหมาย หรือติดตามผลคดีให้โทรศัพท์ประสานงานกับพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีโดยตรง และกรณีแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายในพื้นที่ ให้โทรเบอร์ 191 หรือ 044-242555 ตลอด 24 ชั่วโมง
ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews