ไล่ออกเเล้ว ปัทมา สาวเเบงค์เเสบ เเอบถอนเงินลูกค้าหายกว่า4ล้าน
ไล่ออกเเล้ว ปัทมา สาวเเบงค์เเสบเเอบถอนเงินลูกค้า พร้อมแจ้งดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์-ยักยอกทรัพย์ รวมค่าเสียหายกว่า4ล้าน
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจตามรวบ"ปัทมา"สาวเเบงค์เเสบ .... โดยหลังจากที่ 2 ยายหลาน นางกำไล และ นางนรินทร์ เข้าแจ้งความตำรวจ สภ.เมืองชัยภูมิ หลังจาก เงินในบัญชีกว่า1.8ล้าน ของน้องสาวที่อยู่ต่างประเทศ โอนมาเก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายจำนวนกว่า เงินหายไปจากบัญชี เหลือเเค่ 3,700 บาท เบื้องต้นนั้นสงสัยว่าถูกแอปฯดูดเงิน
ซึ่งในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบพบว่าผู้ก่อเหตุคือ สาวเเบงค์ของธนาคารเเห่งหนึ่ง เเอบโอนเงินจากบัญชีลูกค้า จึงขออนุมัติศาลจังหวัดชัยภูมิ เลขที่ 152/2564 ลงวันที่ 20 ตุลาคม 2564 กล่าวหานางสาวปัทมา บุตรศรี อายุ 28 ปี ลูกจ้างธนาคารซึ่งกระทำความผิดฐานลักทรัพย์นายจ้าง และนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ พร้อมส่งหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกติดตามตัว
จากนั้นเมื่อวันที่ 25 ต.ค.64 ที่ผ่านมา ตำรวจสภ.เมืองชัยภูมิ ตามรวบสาวเเบงค์ นางสาวปัทมาได้เเล้ว หลังพยายามขับรถหลบหนีจนประสบอุบัติเหตุชนต้นไม้ข้างทาง ได้รับบาดเจ็บ เเละมารักษาตัวที่โรงพยาบาลชัยภูมิรามฯ ก่อนคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองชัยภูมิ เบื้องต้นนางสาวปัทมา ให้การรับสารภาพว่ากระทำเพียงคนเดียว ป็นคนยักยอกเงินของลูกค้าธนาคารที่หายไปกว่า1.8ล้านบาท จริง ซึ่งไม่มีเจตนาขโมยเพียงนำเงินไปลงทุนแต่หมุนเงินไม่ทันในช่วงนี้เท่านั้น
โดยพร้อมชดใช้เงินของลูกค้าคืนเข้าบัญชีทั้งหมด รวมทั้งหลังตรวจสอบแล้วพบว่ามีผู้เสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าวอีกจำนวนมากกว่า 3 ราย ซึ่งมีการเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ขอให้ตรวจสอบเพิ่มเติม ซึ่งแต่ละรายมีเงินสูญหายไปจากบัญชีเงินฝากแล้วหลักรวมครั้งนี้อีกมากกว่า4ล้านบาท ซึ่งผู้ต้องหาสาวพนักงานธนาคารรายนี้ ก็ได้ขอยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวเองมูลค่ารวมกว่า 4 ล้านบาท
ล่าสุดนั้นทางธนาคารต้นสังกัด ได้ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความเอาผิดกับ นางสาวปัทมา วัย28ปี ซึ่งธนาคารถือเป็นนายจ้างผู้ได้รับความเสียหาย ธนาคารจึงได้ตัดสินใจไล่ออกสาวเเบงค์รายนี้เเล้ว ในส่วนของลูกค้าผู้เสียหายได้มีการโอนเงินคืนเข้าบัญชีครบทุกรายเเล้ว
ด้าน ร.ต.ท.พัชรพล อาจกมล พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ เจ้าของคดี หลังได้สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งในส่วนผู้เสียหายที่ถูกสาวแบงค์รายนี้ยักยอกแอบถอนเงินในบัญชีได้รับเงินคืนจากธนาคารได้คืนทั้งหมดแล้วก็คงเหลือในส่วนที่จะต้องดำเนินคดีสาวแบงค์รายนี้ตามกฎหมาย ในข้อหาลักทรัพย์ และยักยอกทรัพย์นายจ้าง ที่ธนาคารเป็นผู้นายจ้างที่ธนาคารเป็นผู้ได้รับความเสียหายโดยตรงตามกฏหมายต่อไป
ขอบคุณ
สุทธิพงศ์ เสฎฐรังสี - nation online